สาวใหญ่ป่วยโรคซึมเศร้า เครียดจัด เก็บตัวในห้องทั้งวัน ก่อนตัดสินใจกระโดดจากดาดฟ้าชั้น 4 ฆ่าตัวตาย
วันนี้ (21 พ.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน ร.ต.ท.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุหญิงโดดตึกเสียชีวิต หน้าบ้านเลขที่ 48/6 ซ.ร่วมฤดี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามวัดมหาไถ่ เยื้องกับซ.ร่วมฤดี 5 เป็นทาวน์โฮมสูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 2 คูหา เลขที่ 48/6 และ 48/7 ทำเป็นโฮมออฟฟิศ เปิดบริษัทห้างหุ้นส่วน จำกัด โชติรัตน ประกอบธุรกิจผลิตและส่งออกเครื่องประดับจิวเวลรี่ เพชร พลอย ทั้งสร้อย แหวน กำไล ต่างหู ฯ บริเวณหน้าอาคารเลขที่ 48/6 พบศพนางอรวรรณ ร่วมฤดีมาศ อายุ 60 ปี นอนเสียชีวิตสภาพคว่ำหน้า ที่เกิดเหตุมีเพียงผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง
สอบถามนางสุภาพรรณ รตานนท์ อายุ 61 ปี เพื่อนบ้านอยู่อาคารเยื้องกับบ้านหลังเกิดเหตุ กล่าวว่า บ้านตนเปิดเป็นร้านขายอาหาร ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ตนกำลังทำอาหารให้ลูกค้าที่ร้าน จึงเปิดหน้าต่าง ไม่รู้อะไรดลใจให้หันไปมองบ้านของผู้เสียชีวิต ประจวบเหมาะกับจังหวะผู้เสียชีวิตโดดจากดาดฟ้าชั้น 4 กระแทกพื้นดังตุ๊บ ตนตกใจร้องเสียงหลงร้องบอกคนโดดตึก ก่อนจะวิ่งออกมาดูแล้วตะโกนให้คนมาช่วย และเรียกรถพยาบาล แต่ก็ไม่ทัน
นางสุภาพรรณ กล่าวอีกว่า ปกติผู้เสียชีวิตจะไม่สุงสิงกับเพื่อนบ้าน ใครมองหน้าก็ไม่ได้ โดนด่าหมด ดูแล้วคล้ายกับคนป่วยทางจิต ก่อนหน้านี้มีสามีอาศัยอยู่ด้วยไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรช่วงหลังมานี้ไม่เห็น มีเพียงคนงานของบริษัทซึ่งเหลือไม่กี่คน จึงเห็นผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเพียงลำพังมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งจะเก็บตัวเงียบล็อกประตูตั้งแต่ประตูรั้วเข้าบ้าน
ต่อมานายปกรณ์ ร่วมฤดีมาศ สามีผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูศพพร้อมกับลูกสาว 2 คน เป็นนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาอยู่ที่ รพ.ศิริราช คนโตใกล้จะเรียนจบ ส่วนคนเล็กเพิ่งเข้าเรียนแพทย์ เมื่อเห็นศพก็กอดกันร้องไห้โฮ เข่าอ่อนแทบจะเป็นลม เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าประคอง และให้ดมแอมโมเนีย พร้อมกับพูดปลอบใจ
จากการสอบถามอดีตลูกน้องของผู้เสียชีวิต (ขอสงวนชื่อ) ได้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และโรคซึมเศร้า เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเคยฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพานลอยมาแล้ว แต่ช่วยนำส่งโรงพยาบาลตำรวจรักษาจนรอดชีวิต และผู้เสียชีวิตต้องเข้ารักษาอาการป่วยโรคประจำตัวตลอด แต่ทราบมาว่าประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ไม่ได้ไปหาหมอ และไม่ได้กินยารักษาต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อต้นเดือนกันยายนมีปากเสียงกับสามีอย่างรุนแรง จนขับไล่สามีออกจากบ้าน เพราะเข้าใจผิดคิดมาก นึกว่าสามีตนเองไปมีเมียน้อย จากนั้นมาใครเข้ามาบ้านก็ไม่ได้ แม้แต่ลูกสาวเข้ามาเยี่ยมยังถูกด่ากระเจิง
ด้านร.ต.ท.สุทวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบถามพยานแน่ชัดแล้วว่าผู้เสียชีวิตกระโดดจากดาดฟ้าชั้น4 เพื่อฆ่าตัวตายเอง สาเหตุน่าจะมาจากป่วยโรคซึมเศร้าและเป็นอัลไซเมอร์ จนทำให้คิดมากไปต่างๆนานาสะสมความเครียด โดยก่อนเกิดเหตุมีลูกน้องซึ่งเป็นแม่บ้านมาหา มาหาตั้งแต่ช่วงเช้า ร้องเรียกอย่างไรก็ไม่ยอมมาเปิดประตูให้เข้าบ้าน จากนั้นรอบบ่ายมาอีก รอกระทั่ง 1 ทุ่มก็ยังไม่ยอมออกมาเปิดบ้าน จนแม่บ้านต้องเรียกเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตมาเรียกเพราะเกรงจะเป็นอันตราย โดยเรียกเจ้าหน้าท่ตำรวจมาด้วย จึงสามารถเข้าไปในบ้านได้ พบว่าผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บนที่นอนชั้น 4 เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงพากันกลับปล่อยให้ผู้เสียชีวิตอยู่เพียงลำพัง
ร.ต.ท.สุทวัฒน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ลุมพินี พร้อมเพื่อนผู้เสียชีวิตและแม่บ้านเดินทางกลับไม่นาน เพื่อนบ้านระแวกใกล้เคียงสังเกตเห็นผู้เสียชีวิตขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่บนดาดฟ้า ไม่ทันได้เอะใจก็ทิ้งตัวลงมาข้างล่างจนทำให้เสียชีวิต เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่กูภัยนำศพส่งชันสูจน์อย่างละเอียดที่ รพ.จุฬาฯ สำหรับการเสียชีวิตทางญาติไม่ติดใจแต่อย่างใด