ข้าวสารฉาว!! แหม่มถูกทุบหัวด้วยอิฐ ดักชิงทรัพย์กลางดึก

 ข้าวสารฉาว แหม่มฝรั่งเศสถูก 2 คนงานดักชิงทรัพย์กลางดึก ทุบหัวด้วยอิฐ ก่อนลากเข้าซอยจะข่มขืน พลเมืองดีเห็นก่อนรีบแจ้งตำรวจจับได้ทั้งคู่ เผยเป็นคนงานก่อสร้างที่หัวหิน เพื่อนชวนมาเที่ยวแล้วเงินหมด แฟนหนุ่มยี้ภาพพจน์ท่องเที่ยวไทย ไปที่อื่นไม่เห็นเป็นอย่างนี้
   
ที่ สน.ชนะสงคราม วันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท.รอง ผบ.ตร.

พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น., พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ รรท.ผบก.น.1, พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม, พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แถลงจับกุมตัวนายสุรศักดิ์ วรรณ์ประเพา อายุ 19 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ และนายเชือน วามะขันธ์ อายุ 42 ปี จ.อุบลราชธานี ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 ธนบัตรสกุลยูโร 255 ยูโร ธนบัตรสกุลดอลลาร์ 30 ดอลลาร์ ธนบัตรสกุลเงินลาว 4,000 กีบ ธนบัตรรัฐบาลไทย 560 บาท บัตรมาสเตอร์การ์ด 1 ใบ และหนังสือเดินทางระบุชื่อนางกาลิกัน เอซา ลูซ เจนีวีฟ (kalicun eisa luce genevieve) อายุ 32 ปี สัญชาติฝรั่งเศส
   
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 4 พ.ย. คนร้ายทั้งสองเห็น น.ส.เอซา

เดินผ่านมาเพียงลำพัง บริเวณปากซอยสามเสน 3 จึงวางแผนชิงทรัพย์ผู้เสียหาย โดยนายสุรศักดิ์ได้ใช้อิฐตัวหนอนทุบศีรษะของผู้เสียหายจนล้มลง แล้วลากหญิงคนดังกล่าวเข้าไปในซอยเพื่อข่มขืน แต่ผู้เสียหายต่อสู้ นายสุรศักดิ์จึงวิ่งหนีออกมาพบกับนายเชือนซึ่งเป็นคนดูต้นทาง เรียกรถแท็กซี่เพื่อจะหลบหนี แต่พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ และส่งตัวนางเอซาเข้ารักษาที่ รพ.วชิรพยาบาล
   
จากการสอบสวนนายสรุศักดิ์ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำงานก่อสร้างอยู่ที่หัวหิน เพิ่งเข้า กทม.ได้เพียงไม่กี่วัน

เมื่อวันจันทร์ พี่ที่ทำงานด้วยกันชวนมาเที่ยวที่ถนนข้าวสาร จึงเดินทางมากัน 3 คน จากนั้นเวลาประมาณตี 2 พี่ที่มาด้วยขอตัวกลับก่อน เหลือตนกับนายเชือน ซึ่งไม่มีเงินกลับบ้าน จึงวางแผนก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าว และตั้งใจจะข่มขืน แต่ถูกผู้เสียหายถีบ ประกอบกับมีผู้เห็นเหตุการณ์ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงถูกตำรวจจับก่อนหลบหนี
   
ด้านนายทอม บัสลีย์ อายุ 24 ปี สัญชาติอังกฤษ แฟนของผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะนี้ น.ส.เอซาพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วชิรพยาบาล

มีบาดแผลบริเวณหน้าผากและท้ายทอย ยังคงอยู่ในช่วงพักฟื้น ตนและแฟนเดินทางเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยได้ 4 วันแล้ว ก่อนหน้าที่ได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นๆ มาด้วย แต่ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ วันที่เกิดเหตุเนื่องจากช่วงกลางดึก แฟนสาวของตนหิวจึงออกมาจากเกสต์เฮาส์ตามลำพังเพื่อมาหาซื้อของกินจนมาเกิดเหตุขึ้น ตนรู้สึกไม่ดีกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะจุดที่เกิดเหตุก็ถือว่าอยู่ใกล้สถานีตำรวจมาก แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย.