แม่น้องต๊อกเบี้ยวให้ปากคำตร.

จากกรณีนางกัลยา เกตุนาวา มารดาของ ด.ช.ศุภชัย ธรรมานุพัฒน์ หรือน้องต๊อก จมน้ำเสียชีวิตปริศนา

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา จนภายหลังมีการร้องขอให้รื้อคดีใหม่ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม
 
ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 ต.ค. พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบช.ภ. 6 กล่าวว่า หลังจาก รอง ผช.ผบ.ตร. มาตรวจความคืบหน้าของคดีน้องต๊อกที่มีการรื้อคดีใหม่นั้นรับทราบมาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกทั้งนางกัลยา และ ด.ช.ฟิล์มเพื่อนน้องต๊อกที่อยู่ในที่เกิดเหตุกับน้องต๊อกมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบสวนและค้นหาความจริงให้ปรากฏ แต่กระทั่งวันนี้ได้ครบกำหนด 7 วันแล้ว ปรากฏว่านางกัลยา และ ด.ช.ฟิล์ม ไม่ยอมเดินทางมาให้ปากคำแต่อย่างใด ส่งผลให้ตำรวจทำงานลำบาก แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องสอบสวนจนกว่าคดีจะคลี่คลาย ขณะที่ข้อมูลหลักฐานและการสอบแพทย์นิติเวชทั้ง 2 แห่ง ส่งผลไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติหมดแล้ว คาดว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทราบผลและแนวทางของคดีมากขึ้น ส่วนที่แม่ของน้องต๊อกจะไปร้องกับหน่วยงานใดนั้นก็มีสิทธิ์ที่พึงทำได้ แต่ขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานให้อย่างเต็มที่แล้ว

ขณะเดียวกันที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์

ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยนางกัลยา ได้เข้าพบ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอให้มีการชันสูตรศพน้องต๊อกใหม่เป็นครั้งที่ 3 นางกัลยา ระบุว่า ต้องการทราบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายให้ชัดเจนเพราะที่ผ่านมาไม่สามารถขอดูผลการชันสูตรจาก รพ.นเรศวร ที่เป็นผู้ชันสูตรครั้งแรกได้และตนเชื่อว่าการเสียชีวิตของลูกชายไม่ใช่การจมน้ำธรรมดา

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว มีการผ่าศพชันสูตรไปแล้ว 2 ครั้ง คือที่ รพ.นเรศวร และนิติเวช รพ.ตำรวจ

ซึ่งในส่วนของผลชันสูตร รพ.นเรศวรแจ้งว่าเป็นการจมน้ำเสียชีวิตแต่มีปัญหาคือญาติไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลผลการชันสูตรได้ โดยอ้างว่าได้ส่งผลชันสูตรให้พนักงานสอบสวนไปแล้ว ภายหลังไปร้องมาที่มูลนิธิปวีณาก็มีการขอให้นิติเวชผ่าศพเป็นครั้งที่ 2 ระบุศพมีสภาพถูกของแข็งกระแทก พบการสำลักน้ำ มีเศษอาหารติดในหลอดลมและพบรอยช้ำหลายแห่งทั้งที่ คอ หัวเข่า ศอก และชายโครง ซึ่งการชันสูตรของนิติเวชสันนิษฐาน เบื้องต้นว่าเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ อย่างไรก็ตามปัญหาขณะนี้คือญาติเข้าไม่ถึงข้อมูล ทั้งที่เป็นสิทธิขั้นพื้ฐานตามรัฐธรรมนูญ ในการขอทราบผลการชันสูตรเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับหลักฐานอื่นในคดีเบื้องต้นจึงประสานไปยัง รพ.นเรศวร เพื่อขอให้ญาติทราบผลชันสูตรครั้งแรกว่าเสียชีวิตเพราะเหตุใด.