‘ป้าสังเวียน’ ปัญหาหนี้ซับซ้อน ค้ำประกันนายหน้าเงินกู้-ลูกหนี้ ปมเครียดเผาตัว!

‘ป้าสังเวียน’ ปัญหาหนี้ซับซ้อน ค้ำประกันนายหน้าเงินกู้-ลูกหนี้ ปมเครียดเผาตัว!

 วันที่ 15 ต.ค. รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า สำหรับเรื่องร้องเรียนของนางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ ชาวลพบุรี ที่เผาตัวเองนั้น ได้มายื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มายื่นเรื่องร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2557 โดยนางสังเวียนระบุว่า ถูกเจ้าหนี้ (น.ส.ธิดารัตน์ เทพอารักษ์) มาพร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจจำนวนหนึ่ง บุกทวงหนี้ถึงบ้าน หมู่ 5 ต.วังจั่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เพื่อจะจับกุมโดยกล่าวหาว่าเป็นหนี้จำนวน 3 ล้านบาท แต่ข้าพเจ้าไม่ยอมให้จับตัว

 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2557 ร้องเรียนกรณีถูกเจ้าหนี้ยึดที่นาประมาณ 100 ไร่ ประกอบด้วย ไร่ข้าวโพดและไร่ฟักทอง ที่นาปลูกข้าว และกำลังจะเก็บเกี่ยวผลผลิตภายใน 2 สัปดาห์ โดยลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท แต่ยังไม่ทันได้เก็บเกี่ยวผลผลิตกลับถูกยึดทั้งหมด โดยเจ้าหนี้ได้บุกเข้ามาที่บ้านพักเพื่อดำเนินการเร่งรัดให้จ่ายหนี้สิน ให้ขายบ้านและที่ดิน ไร่ นา ทั้งหมดเพื่อเป็นการชำระหนี้ นอกจากนี้ยังมีเงินที่ได้กู้ยืมมาเพื่อลงทุนอีกจำนวน 4 แสนบาท แต่ในเอกสารประนอมหนี้โดยที่มีนายอำเภอเป็นพยานและช่วยไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ กลับถูกระบุว่าเป็นหนี้ถึง 1.5 ล้านบาท โดยที่ตนไม่ทราบรายละเอียดเพราะไม่รู้หนังสือ แล้วเอกสารดังกล่าวถูกเจ้าหนี้นำไปใช้ฟ้องร้องต่อศาล กระทั่งมีหมายศาลมาถึงตัวนางสังเวียน จึงได้ทราบว่ามีหนี้ถึง 1.5 ล้านบาท

 ทั้งนี้ในเอกสารยังระบุด้วยว่านางสังเวียนยอมรับว่ายังได้ยืมเงินจากเจ้าหนี้รายหนึ่ง ยืมครั้งแรกจำนวน 4 หมื่นบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ส่งดอกเบี้ยทุกเดือน ยืมครั้งที่ 2 อีกจำนวน 4 หมื่นบาท เพื่อแต่งงานลูกชาย และส่งแต่ดอกเบี้ยมาตลอดทุกเดือน ตั้งแต่ต้นปี 2554 เดือนละประมาณ 7 พัน- 3 หมื่นบาท กระทั่งเดือนธ.ค. 2556 จึงหยุดส่งดอกเบี้ยเพราะไม่มีเงิน ซึ่งเงินที่นำมาส่งดอกเป็นของญาติ(นางสาคร รักษาเพ็ชร์) แล้วจึงถูกทวงถามหนี้ที่ได้ยืมมาแบบปากเปล่าไม่เคยมีสัญญา

 และในวันที่ 20 มิ.ย. 2557 เจ้าหนี้ได้มาด่าทอข้าพเจ้าว่าเป็นหนี้ จำนวน 3 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 8 ก.ค. 2557 ได้ไปประนอมหนี้ที่อ.โคกสำโรง ต่อหน้าปลัดและนายอำเภอ โดยเจ้าหนี้บอกว่าเป็นหนี้ 2.5 ล้านบาท และในวันที่ 11 ก.ย.2557 เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรี เจ้าหนี้ระบุว่ามีหนี้สิน อยู่ 1.6 ล้านบาท ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ราชการ พอถึงวันที่ 21 ก.ย. 2557 ได้ไปตามทวงขอคืนที่ทำกินจากเจ้าหน้าหนี้อีกครั้ง แต่ถูกปฎิเสธไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวในที่ดิน

 จากนั้นวันที่  22 ก.ย. ได้เดินทางมาติดตามเรื่องที่ศูนย์บริการประชาชนและร้องทุกข์กรณีถูกนายอำเภอร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและตำรวจหลอกให้เซ็นสัญญาที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง ว่าเป็นหนี้ 1.5ล้านบาท ทั้งที่เป็นหนี้จริงเพียง 4 แสนบาท โดยในบันทึกระบุว่าถูกหลอกเพราะไม่รู้หนังสือ จึงมาขอความเมตตาให้ผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือ

 

 อย่างไรก็ตามในเอกสารร้องเรียนของนางสังเวียน

 ระบุด้วยว่า 1.หนี้สินที่เกิดมานี้เกิดมาจากข้าพเจ้าพาคนมากู้เงินกับเจ้าหนี้ เพราะทั้งสองฝ่ายยินยอมให้กันเอง แล้วนำไปใช้กันเอง บางส่วนก็เก็บไม่ได้ เจ้าหนี้เลยนำมาให้ข้าพเจ้ารับใช้แต่เพียงผู้เดียว ข้าพเจ้าก็รับใช้ เจ้าหนี้ไม่ยอม และพยายามบีบทุกอย่างเท่าที่ทำได้กระทั่งต้องขายรถไถเพื่อหักค่าไถนาและนำเงินที่เหลือไปใช้เจ้าหนี้ แต่เขาบอกว่าไม่ได้ 

 2.หนี้สินที่รับสภาพหนี้ 1.5 ล้านบาท ขอให้อยู่กับตัวข้าพเจ้าแค่อายุ 60 ปี ชราภาพ ห้ามนำไปฟ้องร้องกับสามีและบุตรของข้าพเจ้าหรือทุกคนทั้งสิ้น เพราะสามีและบุตรไม่มีส่วนรู้เรื่องในหนี้ส่วนนี้ และเวลาที่ข้าพเจ้าไปเก็บดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้และนำเงินอย่างน้อย 8-9 หมื่นบาทไปให้โดยที่ไม่เคยได้รับค่าตอบแทนใดๆ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องใดๆกับสามีและบุตรของข้าพเจ้า หรือหากข้าพเจ้าเสียชีวิตไปก่อนก็ห้ามนำมาฟ้องร้อง 3.ขอให้เจ้าหนี้คืนที่เช่าทำกิน 4. ให้เจ้าหนี้คืนค่าเสียหายจากการที่เจ้าหนี้ยึดที่ทำกิน เพื่อให้ผู้เช่ารายใหม่ทำกิน ทั้งที่ข้าพเจ้าได้ลงทุนไว้ก่อน

 รายงานข่าวจากทำเนียบฯระบุว่า ตั้งแต่ได้รับเรื่องร้องเรียนของนางสังเวียน ทางศูนย์บริการประชาชนได้ไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เพื่อให้จัดทำบันทึกประนีประนอมยอมความสรุปต้นเงินคงเป็นหนี้จำนวน 1.5. ล้านบาท และประสานไปยังศูนย์ดำรงธรรมจ.ลพบุรี ซึ่งผู้ร้องขอความช่วยเหลือให้ไกล่เกลี่ยหนี้ให้เหลือ จำรนวน 4 แสนบาท ซึ่งทางคณะกรรมการศูนย์ดำรงธรรมจ.ลพบุรี ได้ประชุมเพื่อช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้ของนางสังเวียนไปเมื่อ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาและยังได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบว่าศูนย์อำนวยการปฎิบัติการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ได้ประสานเรื่องไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง 

อาทิ คลังจ.ลพบุรี และธนาคารออมสิน และอยู่ระหว่างดำเนินการ 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด