“มูลนิธิเมาไม่ขับ”เล็งให้ 1หมื่น ตำรวจจับขี้เมา บช.น.ดีเดย์เริ่มจับทั่วกรุง 3ข้อหา ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกกันน็อค16ต.ค.นี้ พร้อมเตรียมเปิดศูนย์ลดปัญหาอุบัติเหตุ
นายแพทย์แท้จริงศิริพานิช เลขามูลนิธิเมาไม่ขับเปิดเผยว่า จากที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)
ได้มีโครงการให้เงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ที่จับประชาชนเสนอให้สินบนเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติหน้าที่กวดขันวินัยจราจรนั้นมูลนิธิฯเห็นว่าเป็นการริเริ่มที่จะทำให้สังคมดีขึ้น ดีกว่าที่จะไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเลยโครงการนี้ทำให้เกิดความเกรงกลัวไม่กระทำการที่ผิดกฎหมายทั้งฝ่ายประชาชนและฝ่ายเจ้าหน้าที่ แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่เชื่อว่าทำให้พฤติกรรมการให้สินบนและรับสินบนลดน้อยลงซึ่งมูลนิธิฯในฐานะหน่วยงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากผู้ขับขี่เมาไม่ขับจึงเห็นด้วยที่จะให้เงินรางวัลเพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางท้องถนนกรณีของผู้ที่เมาแล้วขับโดยให้เงินรางวัล 1หมื่นบาททั้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับคนเมาที่เสนอให้สินบนเพื่อที่จะไม่ถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับและให้เงิน1หมื่นบาทกับประชาชนที่สามารถบันทึกภาพหรือมีหลักฐานชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่มีการเรียกรับสินบนในคดีเมา เป็นการให้รางวัลทั้ง 2ฝ่ายทั้งนี้ได้มีการหารือกับทางรองผบช.น.ในเบื้องต้นแล้วและจะมีการประกาศสนับสนุนต่อไปในส่วนของงบประมาณนั้นมูลนิธิฯเชื่อว่ามีผู้ที่พร้อมจะสนับสนุนโครงการไม่น่าจะมีปัญหา
ด้านพล.ต.ต.อดุลย์ณรงค์ศักดิ์รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.)ดูแลงานจราจรกล่าวว่า
พล.ต.อ.สมยศพุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)มีนโยบายมุ่งลดปัญหาอุบัติเหตุให้มากที่สุดโดยบช.น.จะจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในกรุงเทพมหานครรวบรวมสถิติการเกิดอุบัติเหตุทั่วพื้นที่กรุงเทพฯอย่างเป็นระบบและนำมาวิเคราะห์ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ซึ่งกทม.เป็นเมืองที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดของประเทศโดยจะตั้งที่กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.)ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานกองทุนสนันสนุนการส่งเสริมสุขภาพ(สสส.)ในการสนันสนุนงบประมาณจำนวน 25ล้านบาท เพื่อจัดทำระบบและอุปกรณ์ต่างๆจะเปิดทำการในวันที่16ต.ค.นี้และบช.น.จะเข้มงวดดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดใน3ข้อหาที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด
คือ 1.ไม่สวมหมวกกันน็อกมีโทษปรับไม่เกิน 500บาท 2.เมาแล้วขับซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่5,000-20,000บาทและจำคุกไม่เกิน 1ปีและ3.ขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนดซึ่งในพื้นที่เขตเมืองจะต้องไม่เกิน80กม.ต่อชม.ส่วนพื้นที่นอกจะต้องไม่เกิน 90กม.ต่อชม.หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000บาท เริ่มกวดขันอย่างเด็ดขาดตั้งแต่วันที่16ต.ค.นี้.