โวยอย่ามโนจับแพะ สมยศงัด5ปมมัดพม่าฆ่าฝรั่ง

หลังเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมนายเดวิดมิลเลอร์ และน.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 24 ปี
 
บริเวณชายหาดทรายรี เกาะเต่าอ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา จากนั้น 18 วัน ตำรวจจับกุมนายเวพิว หรือ นายวิน อายุ 21 ปีและนายซอ ลิน หรือ โซเรน อายุ 21 ปี แรงงานพม่าที่สารภาพเป็นคนลงมือก่อเหตุ แต่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองถูกตั้งข้อสังเกตจากสังคมออนไลน์ว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ เพราะหลักฐานมีพิรุธหลายอย่าง ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องออกมาแถลงชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ผบ.ตร.แถลงไร้เงาทูตอังกฤษ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.รองผบ.ตร พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ. 8 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีเปิดแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงการคลี่คลายคดีสังหารสอง นักท่องเที่ยวอังกฤษ โดยมีสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจทำข่าวจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยไม่ได้ร่วมแถลงข่าวด้วยอย่างที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้

ยก5เหตุคนร้ายไม่ใช่แพะ

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เหตุผลที่นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าสองนักท่องเที่ยวครั้งนี้เพราะมีความเชื่อมโยงทั้งพยานหลักฐานและข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ 5 เหตุผลคือ 1.พยานบุคคลคือ เพื่อนชาวพม่าของผู้ต้องหา 2.การพิสูจน์ดีเอ็นอในศพผู้ตายและบนก้นบุหรี่ ตรงกับผู้ต้องหา 3.ภาพจากกล้องซีซีทีวีที่ทีมสืบสวนตรวจสอบและนำมาเป็นพยานหลักฐาน 4.โทรศัพท์ของกลางที่ยึดได้จากผู้ต้องหา ซึ่งเป็นโทรศัพทม์ของนายเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชายที่เสียชีวิต 5.คำสารภาพของผู้ต้องหาทั้งสองคน ที่ให้การรับสารภาพต่อหน้าทนาย ซึ่งทั้ง 5 เหตุผลดังกล่าวทำให้ตำรวจมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาได้

ลั่นแจงครั้งสุดท้าย-อย่ามโน

ส่วนกรณีที่สังคมออนไลน์ตั้งข้อสงสัยในคดีนั้น พล.ต.อ.สมยศยืนยันว่า ตำรวจดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนและมีความชัดเจน สิ่งที่เกิดตามโซเชียลมีเดีย ไม่ทราบว่าเกิดจากคนที่มีความรู้หรือประสบการณ์หรือไม่ มีแต่การมโนภาพ เพ้อฝันของนักสืบออนไลน์หรือไม่ ดังนั้น วันนี้จึงต้องแถลงเพื่อยุติความสับสน สิ่งที่สังคมเข้าใจผิดมันจะลาม ยืนยันว่าข้อวิจารณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ตำรวจหวั่นไหว และขอวิงวอนคนที่ให้ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียว่าข้อมูลที่เป็นประโยชน์ตำรวจต้องขอบคุณ แต่ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ทำให้ตำรวจต้องเสียเวลากับข้อมูลเหล่านี้ ในเมื่อตำรวจต้องชี้แจง ทั้งที่เป็นคำถามเดิมๆ ดังนั้น เพื่อยุติคำถามทั้งหมด วันนี้จะเป็นการแถลงครั้งสุดท้าย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ซักฟอกครั้งสุดท้าย จะตอบทุกอย่างที่ไม่ทำให้สำนวนหรือรูปคดีเสียหาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะมีการนำไปเปรียบเทียบกับคดีในอดีต ที่มีการจับแพะหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า อดีตก็คืออดีต ไม่มีโอกาสที่จะแก้ได้ แต่ตนจะแก้อนาคต ยืนยันว่าคดีนี้ไม่สใช่การจับแพะแน่นอน


โวยอย่ามโนจับแพะ สมยศงัด5ปมมัดพม่าฆ่าฝรั่ง

โวทูตอังกฤษพอใจไม่แทรกแซง

พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวด้วยว่า ทูตอังกฤษพอใจการทำงานของตำรวจไทย และไม่ต้องการแทรกแซงการทำงานของตำรวจไทย ส่วนกรณีเพจเฟซบุ๊ก CSI LA ที่ออกมาเผยข้อมูลต่างๆ นั้น ไม่คิดจะตรวจสอบ และอยากขอบคุณ แต่ถ้าคิดว่ามีความรู้ ความสามารถ ก็ขอให้มาบอกโดยตรงดีกว่า

ส่งสำนวนถึงมืออัยการ

ส่วนความคืบหน้าของคดี วันเดียวกัน พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ นำสำนวนสอบสวนความหนาเกือบ 900 หน้า พร้อมแผนผังการก่อคดีประกอบคำรับสารภาพของสองผู้ต้องหาแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ส่งให้อัยการจังหวัดเกาะสมุย ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แล้ว

ขณะที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและเครือข่ายสิทธิแรงงานข้ามชาติ เข้าหารือกับตำรวจชุดสอบสวน กรณีมีการร้องเรียนว่ามีการทรมานผู้ต้องหาให้รับสารภาพ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจขั้นตอนการทำคดี พร้อมกับจะตั้งทนายมาให้ความช่วยเหลือ

ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข หัวหน้าทีสืบสวนชี้แจงการทำงานของตำรวจว่า ยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์

 และสมมติฐานที่ว่าคนร้ายจะต้องเป็นคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุในเวลานั้น โดยใช้กล้องวงจรปิดคัดกรองบุคคล จุดที่ทำให้จับกุมคนร้ายได้คือ กล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อที่เห็นทั้ง 3 คนซื้อบุหรี่ ก่อนจะซ้อนรถจักรยานยนต์ ถือกีตาร์ มุ่งหน้าไปทางจุดเกิดเหตุ และมีภาพผู้ต้องหาวิ่งไปมาระหว่างที่พักกับจุดเกิดเหตุ และบริเวณดังกล่าวไม่มีบุคคลอื่น ทำให้สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ ส่วนโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายขโมยไปทิ้งเป็นของนายเดวิด ขณะที่บาดแผลของนายเดวิด ที่คล้ายถูกมีดแทงมีลักษณะฉีกขาดขอบไม่เรียบ ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นแผลจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกอย่างรุนแรง

กก.สิทธิเยี่ยม2พม่ารับทำเพราะเมา

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปริญญา ศิริสารการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพร้อมคณะทำงานเดินทางไปเยี่ยม 2 ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวบนเกาะเต่า ซึ่งถูกควบคุมตัวบนเรือนจำเกาะสมุย พร้อมสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้น นายปริญญา ศิริสารการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมลงมือฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษจริง แต่ทำลงไปเพราะความเมา และทำใจได้แล้วกับเรื่องที่จะได้รับโทษหลังก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนบาดแผลของผู้เสียชีวิตที่ข่าวระบุลักษณะคล้ายถูกอาวุธมีดนั้น ผู้ต้องหาทั้งสองปฎิเสธไม่ได้ใช้มีด ใช้สันจอบตีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังต้องปรับปรุงในส่วนทนายความที่เข้ามาดูแลทำคดี เพราะผู้ต้องหาทั้งสองติดใจในส่วนของล่าม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้นั้น เป็นชาวโรฮิงญา เกรงจะไม่ได้รับความยุติธรรม ตนรับจะนำเรื่องแจ้งตำรวจให้ปรับเปลี่ยน

ทูตพม่าลงเกาะเต่าติดตามคดี

ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า รองเอกอัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายลงพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามคดีผู้ต้องหาชาวพม่า 2 คน ฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษรับฟังข้อเท็จจริงจากตำรวจ เบื้องต้นนั้นเปิดเผยว่า พอใจข้อมูล และเตรียมตั้งทนายประจำสถานทูตพม่าเป็นทนายชั่วคราว ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอรัฐบาลพม่าพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป ยืนยันว่าไม่ได้แทรกแซงการทำงานของตำรวจไทย

อัยการตั้งคณะทำงานถกสำนวน

ด้านนางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการกล่าวถึงกรณีตำรวจส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดเกาะสมุย เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องนายนายเวพิว หรือ วิน และนายซอลิน หรือโซเรน ผู้ต้องหาสัญชาติพม่า คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษว่า นายธวัชชัย เสียงแจ้ว อธิบดีอัยการภาค 8 ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายเวพิว และนายซอลิน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา โทรมหญิง เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลักทรัพย์และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา และพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ซึ่งคณะทำงานจะพิจารณาสำนวนอย่างรอบคอบ และรวดเร็วเพื่อมีคำสั่งทางคดีต่อไป

“อัยการไม่กดดันกับกระแสข่าวจับแพะ การพิจารณาสำนวนต้องดูพยานหลักฐานให้รอบคอบ จึงขอเวลาให้คณะทำงานพิจารณาก่อน ส่วนถ้าผู้ต้องหาเห็นว่าไม่ได้รับความธรรมก็สามารถยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมได้เหมือนคดีทั่วไป” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว

“บิ๊กตู่”สั่งทำเอกสารชี้แจงคดี

ส่วน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.รอง ผบช.น. หัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวนคดีฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีเปิดเผยหลังเข้าประชุมเตรียมความพร้อมเดินทางเยือนสหภาพเมียนมาร์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ว่า นายกฯเน้นย้ำให้จัดทำเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ เตรียมไว้หากมีการสอบถามหรือเกิดกรณีข้อสงสัยในคดีดังกล่าวจากรัฐบาลเมียนมาร์จะได้พร้อมชี้แจง พร้อมกำชับด้วยว่า ถ้ามีการสอบถาม ในการชี้แจงต้องอธิบายถึงคดีที่เกิดขึ้นในภาพรวมของผู้ต้องหา โดยต้องไม่ระบุว่าเป็นชาวพม่า แต่ให้ใช้ว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาก่อเหตุ

ทูตพม่าสอบถามแนวทางทำคดี

ขณะที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ในการเยือนเมียนมาร์ถ้ามีการสอบถามคดีดังกล่าว รัฐบาลไทยพร้อมชี้แจงทุกประเด็น ทั้งความเป็นมา กระบวนการทำงานของตำรวจ ที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ ยึดข้อมูลและพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ ได้ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศแล้ว เพื่อสอบถามถึงกระบวนการดำเนินคดี รวมถึงการช่วยเหลือผู้ต้องหาเบื้องต้น แต่ไม่ได้ตั้งข้อสังเกตใดๆกเกี่ยวกับการทำคดีของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์