คุมเข้ม ไอ้วิน-ไอ้ซอ ทำแผนฆ่าทัวริสต์

"สมยศ" นำทีมชุดคลี่คลายคดี คุมตัว 2 แรงงานเถื่อนพม่า "ไอ้วิน-ไอ้ซอ" ฆาตกรโหดฆ่าข่มขืนสาวอังกฤษทำแผนฯ สารภาพเกิดอารมณ์หื่นหลังเห็นเดินพลอดรักผ่านหน้าไป คว้าจอบฟาดลากขืนใจยับ ชาวบ้านแห่ดูหน้าเพียบ

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภาค 8 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.สส.ภาค 8 และพล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี คุมตัวนายซอ และนายวิน ทั้งคู่อายุ 21 ปี ชาวเมืองยะไข่ ประเทศพม่า ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนทัวริสต์ชาวอังกฤษ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี เดินทางไปยังเกาะเต่า หลังจากผลการตรวจดีเอ็นเอของชาวพม่าทั้ง 2 ราย ตรงกันกับดีเอ็นเอที่ตำรวจเก็บได้จากที่เกิดเหตุ ส่วนแรงงานพม่าอีก 1 ราย ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย จากการตรวจพบว่าดีเอ็นเอไม่ตรงกัน จึงถือว่าไม่มีส่วนร่วมจึงกันไว้เป็นพยาน นอกจากนี้ยังพบมือถือผู้ตายอยู่ในหนองน้ำใกล้ห้องพักของนายวินด้วย

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.สมศักดิ์ หนูรอด รอง ผกก.สส.สภ.เกาะพะงัน นำสำนวนการสอบสวนพยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ก่อนได้หมายจับรวม 3 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนนา ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยการใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

ต่อมาที่ศาลาอนุสาวรีย์ จปร. บริเวณหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า พล.ต.อ.สมยศ นำผู้ต้องหาทั้งสองมาแถลงข่าวท่ามกลางประชาชนชาวเกาะเต่าจำนวนมาก จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่จาก บก.สส.ภ.8 และภ.จว.สุราษฎร์ธานี กว่า 300 นาย คอยเฝ้าระวังการรุมประชาทัณฑ์ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจไม่มีพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์จึงใช้การสุ่มตรวจบุคคลที่อยู่ในรัศมี 600 เมตรจากจุดพบศพ รวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในระยะรัศมี 2 กม. ซึ่งการสอบสวนจากปากคำพยานใหม่ที่สกรีนเหลือจาก 50 ราย จนเหลือ 10 ราย ทำให้พบว่ามีผู้ต้องสงสัยที่ไม่เคยเข้ารับการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากชุดสืบสวนขณะเข้าไปซื้อบุหรี่และเบียร์ ภายในร้านสะดวกซื้อ จนนำไปสู่การจับกุม โดยนายวินควบคุมตัวได้ที่ท่าเทียบเรือนอน เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ส่วนนายซอ จับได้ที่ห้องพักคนงานของรีสอร์ทแห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ

ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า สำหรับนายวินทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่บังกะโล ส่วนนายซอทำงานอยู่ที่บาร์ ซึ่งสถานประกอบการทั้งสองเป็นเครือญาติกัน ผู้ต้องหาทั้งคู่รับสารภาพว่า หลังเลิกงานทั้งหมดได้พากันเล่นกีต้าร์และดื่มเบียร์ที่บริเวณหาดทรายรีใกล้จุดพบศพ สอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่ผู้ต้องหาเข้าไปซื้อบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเกิดเหตุ กระทั่งทั้งหมดสังเกตุเห็น น.ส.ฮานน่าห์ และ นายเดวิด เดินพลอดรักกันผ่านหน้าไปจนเกิดอารมาณ์ จึงเดินติดตามไป จากนั้นก็ใช้จอบตีที่ด้านหลังของนายเดวิดจนสลบแล้วช่วยกันลาก น.ส.ฮานน่าห์ ไปรุมข่มขืนจนสำเร็จความใคร่แล้วใช้จอบอันเดิมฟาดไปที่ใบหน้าของ น.ส.ฮานน่าห์ หลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต ก่อนจะลากนายเดวิดไปโดยทิ้งน้ำ แล้วจึงพากันหลบหนี อีกทั้งนายวินก็ขโมยมือถือของเหยื่อสาวติดมือไปด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายวิน และนายซอ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่าง ๆ โดยมีประชาชนติดตามไปเฝ้าสังเกตุการณ์จำนวนมาก