ฉาวราชภัฏดังรับน้องโหด

รุ่นพี่ราชภัฏชื่อดังรับน้องโหด หยอดด้วยน้ำตาเทียนลงแขนใส่รุ่นน้อง กลายเป็นแผลผุพอง เผยไม่สำนึก อ้างคนอื่นโดนไม่เห็นโวยวาย ปัญหาเยอะก็ลาออกไป ขณะที่อาจารย์แจงผ่านเฟซบุ๊ก สอบเหตุดังกล่าวแล้วปัดข่าวอ้างเป็นประเพณี ขณะที่ผู้ปกครองแจ้งเอาเรื่องแล้ว

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บการน้ำตาเทียนหยดใส่จนเป็นแผลพุพอง

โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายหนึ่ง ทำการโพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก อ้างว่าเป็นการรับน้องของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่เกินกว่าเหตุ ทำนองว่า น้องผมเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังสาขา เทคโนโลยีการพิมพ์ แล้วโดนรุ่นพี่รับน้องแบบป่าเถื่อนมาก พอไปสอบถามอาจารย์กับได้คำตอบที่ดีมากว่า “มันเป็นการรับน้องของรุ่นพี่กับรุนน้อง ที่ทำต่อ ๆ กันมา” ตอนนี้ได้เรียกรุ่นพี่มาตักเตือนแล้ว ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน คุณบ้างละ คุณคงไม่อยู่เฉย ๆ แน่นอน ผมกับครอบครัวคงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ จบลงแบบง่าย ๆ แน่นอน ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด มันจะได้ไม่เกิดเหตุการนี้กับใครอีก รบกวนขอความเห็นใจช่วยกันแชร์นะครับ เหตุการแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นอีก

ภายหลังภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ผู้ที่ทราบเรื่องหรือพบเห็นต่างเข้ามาโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
 
เพราะพิธีการรับน้องที่ไม่ห่วงถึงความปลอดภัยทางร่างกายของนักศึกษา อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง อ้างว่า เป็นรุ่นพี่ของนักศึกษาคณะดังกล่าว โดยชื่อ"เด็กน้อย ทินเนอร์" โพสต์ข้อความอ้างว่า "อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ออกไป!! ปัญหามันเยอะมากก็ไป ออกไป" และมีรุ่นพี่ของสถาบันอีกหลายคนออกมาโพสต์ต่อว่าเชิงตำหนิครอบครัวของรุ่นน้องที่ออกมาเอาเรื่องสถาบัน โดยอ้างว่าทำให้สถาบันเสื่อมเสีย

นอกจากนี้ยังรุ่นพี่ ที่อยู่ในสถาบันดังกล่าว
 
โพสต์ข้อความอ้างถึงเหตุการณ์ว่า "มันไม่ใช่น้องพี่คนเดียวนะที่โดน น้อง ๆ คนอื่น ๆ เค้าก็โดนไม่เห็นมีใครมีปัญหา" ยิ่งสร้างกระแสความไม่พอใจ ให้ผู้ปกครองหลายราย และมีการเรียกร้องให้สถาบันดังกล่าว ออกมารับผิดชอบต่อการกระทำ เนื่องจากสถาบันการศึกษาเคยรณรงค์ ป้องกันการรับน้องในทางที่เหมาะสม แต่กลับมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเสียเอง

ด้านอาจารย์ในสถาบันดังกล่าวท่านหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และกำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมภาคทัณฑ์นักศึกษารุ่นพี่ แต่ขอปฏิเสธ เรื่องที่ให้ข่าว อ้างว่าเป็นประเพณี แต่ล่าสุดทางครอบครัวผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความที่ สน.สามเสน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.