วัยรุ่นตั้งแก็งล่าสวาทข่มขืน-รุมโทรม4เดือนมากถึง68ราย

"ชัยภูมิ สุดสลด สังคมเฟะ"



เมืองชัยภูมิสุดอนาถ พบสถิติเด็กผู้หญิงรวมถึงสาวรุ่นอายุ 14-18 ปี ถูกข่มขืน รุมโทรม กระทำชำเรามากถึง 68 ราย

โดยเป็นรายงานตัวเลขของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กและสตรี

ที่เสนอต่อผู้ว่าฯ เหยื่อที่พบล่าสุดวัย 20 ปี ที่ถูก 3 หนุ่มฉกรรจ์ข่มขืนจนตั้งท้อง และคลอดลูกมาปากแหว่ง เพดานโหว่ ต้องให้สถานสงเคราะห์เอาไปเลี้ยง

วันนี้( 11 พ.ค.) เวลา 10.00 น.

คณะกรรมการคุ้มครองเด็กและสตรีจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการนำส่งตัวบุตรชายของน.ส.บี (นามสมมุติ)อายุ 20 ปี ชาวต.ห้วยบง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเพิ่งคลอดออกมาได้ไม่กี่วัน แต่มีสภาพพิการ ปากแหว่ง เพดานโหว่

และแม่ของเด็กไม่ต้องการนำลูกไปเลี้ยงไว้เอง

เนื่องจากลูกที่เกิดขึ้นมานั้น เกิดจากการที่เธอถูกชายวัยรุ่นในอำเภอเมืองชัยภูมิ ข่มขืนกระทำชำเราจนตั้งท้อง เพื่อให้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กที่จ.นครราชสีมาพร้อมหาทางช่วยเหลือผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง

อาการป่วยโรคปากเหว่งเพดานโหว่

ซึ่งจะแก้ไขให้เด็กรายนี้สามารถกลับคืนเหมือนคนปกติได้ต่อไป ส่วนตัวแม่คือน.ส.บี เจ้าหน้าที่ได้รับมาอยู่ในความดูแลบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจจากเจ้าหน้าที่นักจิตวิทยาโรงพยาบาลชัยภูมิอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน



นอกจากนั้นทางคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก

และสตรีจังหวัดชัยภูมิ ได้ส่งรายงานเรื่องสถานการณ์การก่อเหตุใช้ความรุนแรงและทารุณกรรมทางเพศต่อเด็กและสตรี จ.ชัยภูมิ ให้กับนายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ

ด้วยว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าตกใจ

เฉพาะจากต้นปี 2550 ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีการรับแจ้งคดีข่มขืนและรุมโทรมเด็กสตรีเป็นคดีร่วมสอบกับพนักงานอัยการจังหวัดชัยภูมิรวม 68 ราย ส่วนใหญ่มีเด็กสตรีตกเป็นเหยื่อ ตั้งแต่ช่วงอายุ 14-18 ปี มากที่สุด

และผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 18-20 ปี

ซึ่งประเด็นปัญหาหลักเกิดจากการคบเพื่อน ที่จะมีหัวโจกที่เป็นผู้ใหญ่คอยยุให้เด็กวัยรุ่นให้ก่อเหตุ หลังพามั่วสุมยาเสพติดและดื่มสุราจนขาดสติ และส่วนใหญ่เมื่อก่อเหตุแล้วหัวโจกจะหลบหนีไปแล้ว แนวทางการแก้ปัญหาเด็กและสตรีจังหวัดจึงขอเสนอเตือนในเรื่องของการคบเพื่อนไว้ด้วย

โดยปัญหาหลักๆที่เกิดขึ้นพฤติกรรมการก่อเหตุ

แต่ละครั้งที่ตรวจสอบมาจากการเมาสุราและคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่นทุกครั้ง โดยเฉพาะแค่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาเฉพาะเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ มีการฉุดเด็กสาวอยู่ระหว่างอายุ 14-18 ปี

ไปรุมโทรมมาแล้วสูงถึง 10 ราย

ซึ่งถือว่าเป็นเขตอำเภอเกิดเหตุมากสุดรองลงมาที่ อ.เทพสถิต , หนองบัวระเหว และอำเภอจัตุรัส ซึ่งแต่ละครั้งมีการฉุดหญิงสาวไปรุมโทรมมีผู้ร่วมกระทำไม่น้อยกว่า 5 คน



สำหรับกรณีของน.ส.บี นั้น

พบว่าถูกรุมโทรมข่มขืนเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2549 ที่ผ่านมา หลังกลับจากทำงานในร้านอาหารภายในอ.เมืองชัยภูมิ และกำลังจะกลับบ้าน ซึ่งมีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

โดยขี่รถจยย.กลับบ้านเพียงลำพังในเวลา 20.00 น.

จากนั้นได้มีชายวัยรุ่น 3 คน ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีบรอนเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขี่ประกบตามมาบอกให้หยุดรถ ซึ่งชายทุกคนสวมหมวกไหมพรมปิดหน้าตา สวมชุดกางเกงกีฬาขายาว และคนหนึ่งกระโดดลงเพื่อปิดกุญแจรถจยย.ของเธอ พร้อมกับถอดเอากุญแจรถไป ส่วนอีกคนกระโดดเข้าล็อกคอไว้

จากนั้นได้เหวี่ยงลงกับพื้น

และรุมโทรมจนสำเร็จความใคร่ทั้ง 3 คน โดยเธอได้พยายามร้องขอชีวิตและไม่ให้ฆ่าเธอ โดยยอมให้เอาทรัพย์สินทั้งโทรศัพท์มือถือ เงินสด และรถจยย.ที่มีอยู่ไป แต่คนร้ายไม่ได้หวังทรัพย์สิน

เพียงแต่ต้องการข่มขืนเท่านั้น

พอเสร็จกิจก็หนีไป จากนั้นเธอได้โทรศัพท์ให้พ่อมารับ แต่ไม่ได้บอกว่าถูกข่มขืน บอกเพียงถูกวัยรุ่นตามทำร้ายและจะปล้นทรัพย์โดยได้มีการแจ้งความเอาไว้ จากนั้น น.ส.บีได้ไปทำงานกรุงเทพฯ

จนกระทั่งไปรู้ตัวว่าท้อง แต่ก็ยังปิดเงียบ

โดยมีเพื่อนมาบอกว่ามีคนสนใจอยากจะรับลูกในท้องของเธอไปเลี้ยง แต่พอใกล้คลอดคนที่จะเอาไปเลี้ยงกลับหนีไป ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาคลอดลูกที่บ้าน ซึ่งพ่อกับแม่เพิ่งรู้ความจริง



สิ่งที่อยากออกมาเปิดเผยเพื่ออยากให้

เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพราะทุกวันนี้ ในหมู่บ้านไม่ได้มีแค่หนูคนเดียวที่ถูกทำอย่างนี้ มีเด็กมีเพื่อนอีกหลายคนที่ถูกข่มขืน กระทำชำเราแต่ไม่กล้าออกมาแจ้งความเพราะกลัว อับอาย

ซึ่งปัจจุบันยิ่งทำให้แก๊งวัยรุ่นบ้ากาม

พวกนี้เหิมเกริมหนักมากขึ้น เพราะไม่มีใครไปทำอะไรได้ แล้วอีกกี่รายจะต้องตกเหยื่ออีกถ้าถูกกระทำแล้วเงียบอย่างนี้อยู่ต่อไปน.ส.บี กล่าว

ด้านนายมี (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี

พ่อน.ส.บี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกมาก มาทราบเรื่องจริงว่าลูกถูกข่มขืนก็วันนี้นี่เอง หลังลูกสาวกลับบ้านมาคลอดหลานชายที่บ้าน ซึ่งตอนเกิดเหตุและพาลูกสาวเข้าแจ้งความเวลาก็ผ่านไป 1 ปีแล้ว

แต่คนร้ายกลุ่มนี้ก็ยังลอยนวลอยู่ได้

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก และคงไปโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เพราะไม่มีเบาะแส จึงอยากให้สาวที่ตกเป็นเหยื่อช่วยกันออกมาให้ข้อมูลเบาะแสพฤติกรรมคนร้ายกลุ่มนี้ที่กำลังย่ามใจเพื่อลากตัวมาดำเนินคดีให้หมดโดยเร็ว

ด้านนายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์

ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กและสตรีจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ตนจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ตัวเลข 68 รายไม่ใช่น้อยๆ ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวแก็งล่าสวาท มาลงโทษให้เร็วที่สุด



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์