ตร.ลุยถึงกรุงล่าลูกมาเฟียผู้ต้องสงสัยฆ่า 2 ฝรั่ง ผู้ใหญ่วอ-น้องชาย ยันตัวเองบริสุทธิ์

ตร.ลุยถึงกรุงล่าลูกมาเฟียผู้ต้องสงสัยฆ่า 2 ฝรั่ง ผู้ใหญ่วอ-น้องชาย ยันตัวเองบริสุทธิ์

ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม อายุ 24 ปี และน.ส.ฮันนาห์ วิกตอเรีย อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
 
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ห้องประชุมศปก.เกาะเต่า พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้ามาก เพราะเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงนำพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ล่าสุดได้ควบคุมตัวชายต้องสงสัยที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดได้แล้ว ซึ่งเป็นน้องชายของผู้กว้างขวางคนหนึ่งในต.เกาะเต่า โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำของตำรวจ นอกจากนั้นพบว่าหนึ่งในผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปกบดานอยู่ในกรุงเทพฯ จึงประสานไปยังตำรวจนครบาลให้ติดตามตัวมาสอบสวนคาดว่าจะได้ตัวภายในวันนี้

“ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่จับแพะเด็ดขาดที่สำคัญคดีนี้อยู่ในความสนใจของทั่วโลก ตำรวจต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อให้พยานหลักฐานที่มีอยู่มัดผู้ต้องหาให้แน่นหนารัดกุม ยิ่งตอนนี้สังคมกังวลเรื่องผู้มีอิทธิพลมาขวางกั้นการทำคดีนั้น จึงขอให้ความมั่นใจว่าผู้มีบารมีในพื้นที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของตำรวจและหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการกวาดล้างให้เร็วที่สุด”พล.ต.ท.ปัญญากล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.8 ประสานงานมายัง ตำรวจนครบาลให้ช่วยติดตามตัวลูกชายผู้กว้างขวางคนหนึ่งบนเกาะเต่า ซึ่งต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีและหลบหนีมากบดานอยู่ในกรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบแหล่งซ่อนตัวที่มีอยู่หลายแห่งแล้ว พร้อมจัดกำลังกระจายประกบตามจุดต่างๆ คาดจะได้ตัวในเร็วๆ นี้

เที่ยงวันเดียวกัน นายมนตรีวัฒน์ ตู้วิเชียร เจ้าของอินทัช รีสอร์ต เป็นผู้ดูแลเอซีบาร์ และเป็นน้องชายของนายวรพันธ์ ตู้วิเชียร อายุ 49 ปี หรือผู้ใหญ่วอ

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เกาะเต่า เจ้าของเอซี.บาร์ เข้าพบเจ้าหน้าที่เนื่องจากมีรูปพรรณคล้ายกับชายในกล้องวงจรปิดที่บันทึกใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งพล.ต.ท.ปัญญาได้สอบปากคำด้วยตนเอง โดยใช้เวลานาน 2 ช.ม. และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย และเก็บดีเอ็นเอของนายมนตรีวัฒน์ไว้แล้ว ซึ่งผลตรวจออกมาไม่ตรงกับคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวนายมนตรีวัฒน์ไป
 
นายมนตรีวัฒน์กล่าวว่า ขอยืนยันความบริสุทธิ์ เพราะผลการตรวจดีเอ็นออกมาไม่ตรงกับคนร้าย และผลการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดในร่างกาย อีกทั้งในวันเกิดเหตุบาร์ของตนก็ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน ส่วนที่มีรูปถ่ายของตนกับชายไทยอีกคนนั้นชายคนดังกล่าวเป็นเพื่อนตำรวจ บช.ภ.8 ที่รู้จักกัน

นายมนตรีวัฒน์กล่าวอีกว่า ในคืนวันเกิดเหตุมีพนักงานสปาแห่งหนึ่งยืนยันว่า ได้ช่วยเช็ดเลือดที่เปื้อนตัวและใบหน้าของเพื่อนของผู้ตาย
 
เมื่อสอบถามเพื่อนผู้ตายว่าคืนวันเกิดเหตุอยู่ที่ไหน ก็ได้คำตอบว่าไม่ได้ออกไปไหนและนอนพักอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนสงสัย จากนั้นนายวรพันธ์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่ห้องประชุม และให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้ตรวจสอบเช่นกัน
พล.ต.ท.ปัญญาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จากการสอบปากคำนายวรพันธุ์และนายมนตรีวัฒน์ถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก โดยทั้งคู่ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ และยอมให้ตำรวจตรวจสอบทุกอย่าง นอกจากนี้ยังให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบลูกจ้างด้วย ซึ่งลูกจ้างที่ตรวจไปแล้วก็ให้ตรวจซ้ำอีกรอบ ทั้งสารเสพติดและเก็บดีเอ็นเอ เพื่อจะเคลียร์ประเด็นตรงนี้ให้ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสอบปากคำนายวรพันธ์และนายมนตรีวัฒน์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานเพิ่มบริเวณชายหาดที่เกิดเหตุ รวมทั้งภายในร้านเอซีบาร์และเรียกตัวพนักงานเอซีบาร์ พนักงานอินทัช รีสอร์ต รวมถึงบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุกว่า 40 คน มาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ รวมทั้งตรวจการใช้สารเสพติด และมีการสอบปากคำอย่างละเอียด

ด้านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์มิร์เรอร์ของอังกฤษ รายงานว่า นายฌอน แม็กแอนนา นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 25 ปี

ซึ่งเปิดโปงว่าใครคือฆาตกรที่สังหารนายเดวิด วิลเลียม และน.ส.ฮันนาห์ วิกตอเรีย ล่าสุดนายฌอนเดินทางออกจากเกาะเต่าแล้วด้วยความกลัว หลังถูกมาเฟียท้องถิ่นขู่ฆ่า นายฌอนให้สัมภาษณ์มิร์เรอร์อ้างว่า มีชายสองคนจากบาร์มาบอกว่าตนเป็นคนฆ่า 2 ฝรั่ง และพูดอีกว่าตนต้องแขวนคอตาย ซึ่งพวกเขาจะไม่ยิง แต่จะจับตัวไปที่เนินเขาแล้วแขวนคอทำเหมือนว่าฆ่าตัวตาย จึงเชื่อว่าชายสองคนนั้นต้องการให้เป็นแพะรับบาป และรู้ว่าใครคือฆาตกรตัวจริง เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงวิ่งหนีและเข้าไปหลบที่ร้านสะดวกซื้อในเวลา 03.55 น. และชายทั้งสองคนก็วิ่งตามเข้ามาในร้าน ด้วยความกลัวได้ไปหลบหลังเคาน์เตอร์และยืมโทรศัพท์ของพนักงานร้านเปิดเข้าเฟซบุ๊ก พร้อมถ่ายรูปชายที่ตามล่าและโพสต์ข้อความว่า “มาเฟียไทยพยายามจะฆ่าผม กรุณาช่วยผมด้วย” เมื่อเวลา 04.00 น. เผื่อว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้มีคนรู้ว่าใครเป็นคนทำ

“พวกเขาต้องการแพะและไม่ต้องการให้คนท้องถิ่นเป็นแพะพวกเขาต้องการให้เป็นฝรั่ง ดังนั้นถ้าผมฆ่าตัวตายและแขวนคอตายที่นี่ จะเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดว่าดูสิเขาเป็นฆาตกร ซึ่งผมคิดจริงๆ ว่าวันนั้นต้องตายแน่ๆ จึงโทรศัพท์หาแม่และน้อง อยากจะบอกลาเพราะกลัวมาก จากนั้นตำรวจเข้ามาในร้านและคุ้มกันตัวออกไปอย่างปลอดภัย” นายฌอนระบุ

มิร์เรอร์รายงานอีกว่า นายฌอนมาถึงเกาะเต่าเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นเพื่อนของนายเดวิด ซึ่งพบกันที่ลีดส์เมื่อปีก่อน แต่ไม่รู้ว่านายเดวิดอยู่ที่เกาะเต่า

กระทั่งเห็นข้อความที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของนายเดวิด จากนั้นทั้งสองจึงนัดหมายมาพบกันในคืนวันเกิดเหตุ แต่นายฌอนเมาสุราค้างและไม่ตื่น จึงไม่ได้ไปพบนายเดวิด หลังเกิดเหตุสลดกับนายเดวิด นายฌอนโพสต์ข้อความไว้อาลัยในเฟซบุ๊กว่า “ฉันรักนายมากน้องชาย ฉันรู้ว่านายพยายามช่วยชีวิตเธอ นายเป็นผู้ชายที่น่ายกย่องที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา”

นายฌอนกล่าวด้วยว่า คนร้ายไม่มีวันถูกจับได้ ตำรวจไทยไม่มีโอกาสจะคลี่คลายคดี ตำรวจนครบาลควรเข้ามาดูแลคดีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะทีมชันสูตรมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากผ่านไปแล้ว 20 ช.ม.
 
นายฌอนกล่าวอีกว่า รักเกาะแห่งนี้ แต่จะไม่มีวันกลับมาอีกแน่นอน ซึ่งตอนเดินทางออกจากเกาะเต่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ต้องให้ผู้สื่อข่าวมิร์เรอร์เฝ้าดูขณะขึ้นเรือข้ามฟากด้วย
 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์