พ่อโกรธจัดลูกวัย 9 ปี เกียจคร้านซ่อนสมุดการบ้าน ซองบุหรี่ใต้ที่นอน บันดาลโทสะตบตี จับทุ่มหัวฟาดพื้นอาการโคม่า แพทย์ระบุต้องรีบส่งตัวรักษา รพ. เครื่องมือทันสมัย ขณะ ตร.แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. พ.ต.ท.ชญานนท์ อุ่นแก้ว พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งจาก รพ.พะเยา ว่า
มีเด็กชายอายุ 9 ปี ถูกทำร้ายอาการสาหัส จึงรุดไปตรวจสอบบริเวณหน้าตึกอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน พบตำรวจสายตรวจได้ควบคุมตัวนายชมรัตน์ ทาประดิษฐ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235/4 หมู่ 11 บ้านแท่นดอกไม้ ถนนพหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา ซึ่งเป็นพ่อของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี ที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยยืนอยู่กับภรรยาใหม่และลูกอีก 2 คน ที่เกิดกับภรรยาใหม่
เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า ขณะที่ผู้ปกครองนำเด็กมาส่ง รพ. มีอาการซึมไม่ค่อยรู้สึกตัว
มีเลือดออกจมูก ศีรษะปูดบวม แขนซ้ายผิดรูป ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองมีเลือดออกในสมอง ซึมไม่ค่อยรู้สึกตัว มีอาการกระตุกใบหน้า มีบาดแผลที่ขอบตาซ้าย อาการเข้าขั้นโคม่าต้องส่งไปรักษาต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ซึ่งมีเครื่องมือที่ทันสมัยกว่า
สอบสวนนายชมรัตน์ ให้การว่า ลูกชายตนนั้นเกเรเกียจคร้านมาก
และยังแอบสูบบุหรี่อีกด้วย แถมไม่สนใจเรียนหนังสือ โดยตนได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นของลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้นประถม 4 โรงเรียนเทศบาล 6 ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา โดยบอกว่าลูกชายไม่ส่งการบ้าน พอตนเข้าตรวจใต้ที่นอนของลูกชายพบสมุดการบ้านและซองบุหรี่ซุกซ่อนอยู่ จึงทำให้ตนเกิดบันดาลโทสะ ตบตีไปหลายครั้งและจับหัวทุ่มลงกับพื้นบ้านจนมีอาการนิ่งไป เมื่อเห็นลูกแน่นิ่งจึงตั้งสติได้รีบนำส่งโรงพยาบาลพะเยาใกล้บ้าน
นายชมรัตน์ กล่าวต่อว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมแอร์
ซึ่งลูกชายคนนี้เกิดกับภรรยาก่อนที่เลิกกันมานานแล้ว โดยปกติก็จะส่งลูกชายคนนี้ไปอยู่กับป้า และย่าบ้าง แต่ลูกชายมีนิสัยเกเรไม่สนใจเรียนหนังสือ ป้าจึงส่งกลับมาให้ตนดูแล แม้พยายามตักเตือนมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิม ซึ่งตนยอมรับว่า ทำร้ายร่างกายลูกชายตนเอง แต่ไม่มีเจตนาให้เกิดบาดเจ็บถึงขั้นสาหัส
พ.ต.ท.ชญานนท์ กล่าวว่า หลังสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและยืนยันว่าไม่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย แต่ด้วยบันดาลโทสะ จึงเกิดเหตุรุนแรง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยลงบันทึกประจำวันแล้ว ก่อนอนุญาตให้กลับไปดูแลลูกชาย เพื่อหลักมนุษยธรรม.