สาวแจ้งจับด่านจร. ปล้นมือถือตั้งข้อหานุ่งขาสั้น

แต่งครึ่งท่อนเรียกตรวจ ยึดจากกระเป๋า2เครื่อง บก.จร.เต้น-เชิญมาชี้ตัว



สาวเสริมสวยแจ้งตำรวจถูกจราจรตั้งด่านตรวจจยย. แล้วยึดมือถือไป 2 เครื่อง ตั้งข้อหาพิลึกใส่กางเกงขาสั้น เดี๋ยวขาขาวๆ ดำหมด

สารวัตรจราจรกลางผู้ดูแลด่านดังกล่าวแจงวุ่น

ระบุเรียกสาวผู้เสียหายมาดูตัวและชี้รูปจราจรทั้งหมด แต่ผู้เสียหายยังไม่แน่ใจ เผยลูกน้องทุกคนเวลาตั้งด่านต้องแต่งเครื่องแบบและสวมรองเท้าบู๊ตยาว ขณะที่จราจรที่กล่าวถึงแต่งครึ่งท่อน และสวมรองเท้าคอมแบต จึงอยากขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ด้วย

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. น.ส.บังอร ชมพูวิเศษ

อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.3 ต.บ้านเขื่อน อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด อาชีพช่างเสริมสวย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความกับร.ต.ท.เวชกร ชวลิต ร้อยเวร สน.แสมดำ ให้ดำเนินคดีกับตำรวจจราจรกลางที่ตั้งด่านตรวจอยู่บนถ.พระราม 2 ชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่อง

น.ส.บังอร กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 11.35 น.

ของวันที่ 8 พ.ค. ตนขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านพักที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร กระทั่งผ่านมาถึงบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันซัสโก้ ถ.พระราม 2 ขาออก แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

ถูกตำรวจจราจรกลางที่ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรเรียกตรวจ

แล้วพบว่ารถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ ตนจึงเจรจาขอความกรุณาเพราะรถคันดังกล่าวยืมเพื่อนมาใช้ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป



น.ส.บังอรกล่าวต่อว่า หลังจากขับขี่รถจักรยานยนต์

ออกมาจากด่านตรวจได้ประมาณ 10 เมตร มีชายแต่งกายครึ่งท่อนคล้ายตำรวจ สวมเสื้อคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงสีกากีแบบตำรวจ มีอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร และพกปืนสั้น

สวมแว่นตาดำ มีผ้าปิดจมูกเรียกให้หยุด

ก่อนเข้ามาสอบถามเรื่องใบขับขี่ซ้ำอีก พร้อมกับเดินวนตรวจดูรอบๆ รถ แล้วพูดขึ้นว่า "แต่งกายไม่สุภาพ ใส่กางเกงขาสั้น เดี๋ยวขาดำหมด รู้มั้ยมันผิดกฎจราจร"

สาวเสริมสวยกล่าวอีกว่า

จากนั้นชายแต่งกายครึ่งท่อนถามถึงสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสะพาย ตนจึงหยิบให้ดูประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น เอ็น 72 และยี่ห้อโมโตโรล่า รุ่น วี 3

ชายคนดังกล่าวให้ถอดซิมการ์ดออก

แล้วยึดเอามือถือทั้ง 2 เครื่องไป โดยเดินเข้าไปหากลุ่มตำรวจจราจรที่ตั้งด่านอยู่ เท่าที่สังเกตพบว่าชายคนดังกล่าวพูดคุยกับตำรวจจราจรอย่างสนิทสนมและยื่นสิ่งของให้กันด้วย เมื่อกลับมาถึงบ้านตนปรึกษาญาติพี่น้องแล้วจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความในวันรุ่งขึ้น

ด้านพ.ต.อ.ไพศาล คชทรัพย์ ผกก.สน.แสมดำ

เปิดเผยว่า น.ส.บังอร ผู้เสียหายมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับตำรวจจราจรกลางข้อหาชิงทรัพย์จริง ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับประสานกับตำรวจจราจรกลางที่เกี่ยวข้องมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว และสอบปากคำเพื่อคลี่คลายคดีให้กระจ่าง



ขณะที่พ.ต.ท.กฤษ วงษ์อินทร์ สว.งานสายตรวจ 3 กก.1

สน.คู่ขนานลอยฟ้า บก.จร. กล่าวถึงคดีนี้ว่า ในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบการจราจรบริเวณดังกล่าว หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความได้เรียกร.ต.อ.พิสุทธิ์ สามารถ รองสว.งานฯ

หัวหน้าชุดควบคุมตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรในวันนั้น

และตำรวจจราจรประจำด่านทั้งหมด 18 นาย มาสอบถามเรื่องราว รวมทั้งเชิญน.ส.บังอรมาชี้ตัวตำรวจจราจรทั้งหมดแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่มั่นใจ เนื่องจากชายคนที่อ้างถึงแต่งกายคล้ายตำรวจ

ที่พิเศษกว่านั้นคือบอกว่าสวมรองเท้าคอมแบต

โดยข้อเท็จจริงแล้วผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายขณะปฏิบัติหน้าที่ไม่มีใครสวมชุดครึ่งท่อน เพราะเป็นการผิดระเบียบ ส่วนรองเท้าจะสวมเป็นบู๊ตยาวทุกนาย

พ.ต.ท.กฤษกล่าวต่อว่า

เรื่องดังกล่าวตนไม่ได้นิ่งนอนใจ หากผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดจริงจะดำเนินการเอาผิดอย่างเต็มที่ เพราะทำให้เสียชื่อเสียงต่อวงการตำรวจ และวันนี้เชิญน.ส.บังอรมาดูรูปถ่ายใบหน้าตำรวจจราจรทุกนายอีกครั้ง

แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ

เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนเรื่องนามบัตรที่ปรากฏเป็นข่าวทางทีวีช่องหนึ่งนั้น ตนให้ผู้เสียหายไว้เองเพื่อใช้ติดต่อหากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น แต่ข่าวที่ออกไปกลับกลายเป็นว่าตนเป็นคนทำเสียเอง



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์