"สมยศ"ลงพื้นที่เกาะเต่า เร่งสางคดีฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวเมืองผู้ดี เผยเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย 30 ราย เตรียมเทียบกับผลตรวจจากสิงคโปร์ คาด 2 สัปดาห์รู้ผล เชื่อคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ ขณะที่ชาวเกาะเต่าลงขัน 2 แสน ให้ผู้ชี้เบาะแสคนร้าย
คดีสะเทือนขวัญเขย่าวงการท่องเที่ยวไทย เมื่อกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน
ก่อเหตุฆ่านายเดวิด วิลเลี่ยมส์ และ น.ส.ฮานน่าห์ วิกตอเรีย สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ทิ้งสพไว้บนหาดทรายรี แหลม จปร. เกาะเต่า ต. เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งปมสังหารไปที่การฆ่าชิงทรัพย์ และ ฆ่าข่มขืน พร้อมสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 12 ราย แต่ก็ต้องปล่อยตัวไป เนื่องจากผลการตรวจดีเอ็นเอที่พบในช่องคลอดและทวารหนักของน.ส.ฮานน่าห์ ไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัย จนต้องประชุมหารือเอปรับแผนการสอบสวนไล่ล่าคนร้ายใหม่ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 ก.ย.ที่หาดทรายรี
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. และ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณีที่ปรึกษาสบ.10 ลงพื้นที่เร่งรัดคดีพร้อมมอบแนวทางการทำงานให้กับตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ จากนั้นพล.ต.อ.สมยศ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่หาดทรายรี บริเวณจุดพบศพสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจดีเอ็นเอบุคคลในพื้นที่กว่า 30 คน ทั้งกลุ่มประมงแรงงานต่างด้าวและบุคคลที่อยู่โดยรอบที่เกิดเหตุ ในลักษณะปูพรม รวมทั้งนักดนตรี 3 คนที่อยู่บริเวณชายหาดแต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนรู้เพียงว่าเป็นชาวเอเชีย พร้อมส่งผลดีเอ็นเอไปให้ประเทศสิงคโปร์ช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดเพราะสามารถแยกเรื่องสีตา สีผม สีผิวเพื่อจำกัดวงผู้ต้องสงสัยให้แคบลง คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนจะนำผลที่ได้มาตรวจเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ส่วนการประสานเอฟบีไอให้แยกแยะสัญชาตินั้น ยกเลิกแล้ว เนื่องจากในเมืองไทยมีเครื่องมือที่ดำเนินการได้โดยมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า เรามีความหวังว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ แต่ไม่สามารถตีกรอบเวลาได้
และยืนยันว่าไม่ได้ทำงานล่าช้าการปูพรมตรวจดีเอ็นเอผู้ที่อยู่ในพื้นที่ทุกกลุ่ม ได้ทำมาตั้งแต่วันแรก จากที่แรกๆการสืบสวนสอบสวนดูมืดมน ขณะนี้เริ่มมาถูกทางการต่อจิ๊กซอว์ต่างๆเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง จำกัดวงคนร้ายได้แคบลงและเชื่อมั่นว่า คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ประชาชนชาวเกาะเต่าร่วมกันลงขันตั้งรางวัล 1 แสนให้ผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสไปสู่การจับกุมคนร้ายนั้น ตนได้เพิ่มเงินรางวัลให้อีก 1 แสนบาทรวมเป็น 2 แสนบาทเพื่อจูงใจประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสด้วย พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้เพิ่มกำลังพนักงานสอบสวน อีก 12 นาย เข้าสอบสวนปากคำพยานบุคคลแวดล้อม และกลุ่มเป้าหมาย โดยจะสอบสวนปากคำอย่างละเอียด รวมทั้งช่วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจเก็บดีเอ็นเอ ซึ่งดำเนินการไปกว่าครึ่งในกลุ่มพื้นที่เป้าหมาย และอาจมีความจำเป็นต้องขยายวงการตรวจดีเอ็นเอให้ครอบคลุมทั่วทั้งเกาะที่มีคนอยู่ทั้งหมดประมาณ 17,000 คน ในจำนวนนี้เป็นประชากรแฝงถึง 15,000 คน เป็นชาวต่างด้าว4,000 คนที่เหลือเป็นคนไทย 11,000 คน
“ตอนนี้มีปัญหาบุคคลบางกลุ่ม บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอและมีความพยายามปิดบังข้อมูลเจ้าหน้าที่ ซึ่งชุดสืบสวนมีข้อมูลเบาะแสสำคัญและอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อมโยง เราได้ขีดวงจำกัดพื้นที่ในการติดตามตัวคนร้ายให้กระชับยิ่งขึ้นเพื่อความชัดเจนของการทำงาน ขอเวลาให้ตำรวจทำงานอีกระยะหนึ่งและคาดว่าจะคลี่คลายคดีได้ในเร็วๆ นี้” พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 กล่าวว่า ได้สั่งการพล.ต.ต.สุทธินาท สุดยอด ผบก.ภ.จว.ชุมพรจัดกำลังตำรวจสืบสวน
ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ตามหมู่บ้านชาวประมงตั้งแต่พื้นที่ อ.เมือง สวี และ หลังสวน และติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัย เน้นคนไทยและชาวต่างด้าวที่เข้าไปทำงานอยู่บนเกาะเต่า เนื่องจากมีพื้นที่ติดกัน รวมถึงติดตามตัวกลุ่มแรงงานเรือประมงที่จอดหลบลมอยู่บริเวณเกาะเต่าในวันเกิดเหตุมาตรวจเก็บดีเอ็นเอ โดยขณะนี้ผลการปฎิบัติคืบหน้าไปมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ ที่ตำรวจตามประกบไว้นั้นเป็นชายชาวเอเชีย ยังไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอได้ เนื่องจากมีการบ่ายเบี่ยง จึงต้องประกบตัวไว้ก่อน เพื่อรอผลตรวจดีเอ็นเออย่างละเอียดที่พบในศพนักท่องเที่ยวจากประเทศสิงคโปร์รวมทั้งพยานแวดล้อมอื่นๆ แต่ถือว่าเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 นอกเหนือจากอีกกว่า 30 คนที่ตรวจดีเอ็นเอได้แล้ว
นายไชยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเกาะเต่า กล่าวว่า เหตุฆ่ากันตายบนเกาะเต่าครั้งนี้รุนแรงมากที่สุดในรอบ 30 ปี
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเกาะเต่า โดยเฉพาะตนเฒ่าคนแก่ต่างวิตกกังวล เพราะบริเวณที่เกิดเหตุเป็นลานหินสลักจารึกอักษร จปร. ถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่5 ที่ประชาชนเคารพนับถืออย่างสูง เวลามีการจัดงานสำคัญบนเกาะเต่าต้องมีพิธีบวงสรวงกราบไหว้ตลอดที่ผ่านมามักพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พากันไปพลอดรักหรือกระทำไม่เหมาะสมใกล้บริเวณนั้น ซึ่งทางเทศบาลจะเร่งดำเนินการนำป้ายประกาศเตือนไปติดตั้งไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวทราบต่อไป.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
