ผู้ประกอบการเกาะเต่าลงขัน 5 หมื่น รางวัลนำจับคนร้ายฆ่าโหด 2 หนุ่มสาวอังกฤษ
วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับเป็นวันที่ 5 ตั้งแต่เกิดเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองยังคงปูพรมและติดตามหาเบาะแสคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดจากการเชิญตัวแรงงานต่างด้าวกว่า 20 คน ซี่งเป็นลูกจ้างทำงานอยู่ในร้านอาหาร หรือก่อสร้างและพักอาศัยในพื้นที่ มาซักถามทำประวัติและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุ ก่อนจะปล่อยตัวไป
ขณะชายชาวเอเชียที่ปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดและกลุ่มชายที่ไปนั่งเล่นกีต้าร์ริมชายหาดใกล้จุดเกิดเหตุก็ยังไม่พบตัว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปควานหาแรงงานต่างด้าวที่มีความสามารถในการเล่นกีต้าร์และสูบบุหรี่ยีห้อเดียวกันกับก้นบุหรี่ที่ทิ้งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะเต่า ตัดสินใจร่วมกันลงขันระดมเงินจำนวน 50,000 บาท เป็นรางวัลนำจับกับผู้แจ้งเบาะแสของคนร้าย พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ระดมติดตามคนร้ายอย่างต่อเนื่อง และเอาใจช่วยให้จับกุมคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาสบ.10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและจำลองเหตุการณ์ ก็ทำให้เห็นภาพช่วงเวลาที่คนร้ายก่อเหตุมากขึ้น โดยนำมาประกอบให้สอดคล้องกับพยานหลักฐานต่างๆ ให้ถูกเวลา พร้อมกับจะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำคดีนี้มาเป็นพิเศษ
พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ตำรวจท่องเที่ยวได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่แฝงตัวเข้าไปหาข่าวและเบาะแสต่างๆ ในพื้นที่โดยเฉพาะตามกลุ่มนักท่องเที่ยว และแรงงานต่างด้าว ชาวประมง ที่มีอยู่กว่า 3 พันคน ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ที่อาจจะพบเห็นหรือมีเบาะแสของผู้ที่ก่อเหตุเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ตลอดจนประสานกับผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวขอข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก จากเกาะ เนื่องจากอาจมีแรงงานบางรายเดินทางกลับบ้าน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องตีวงให้กว้างมากขึ้น หลังจากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัยรายใด ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งหมดว่าคนร้ายอาจยังอยู่หรือออกนอกพื้นที่ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่เกาะ แต่ไม่คึกคักมากนัก พร้อมยอมรับการสแกนคนเข้า-ออก ในพื้นที่ทำได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมีคนจำนวนมาก แต่ได้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเข้มงวดมากขึ้น ส่วนเพื่อนของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ได้เดินทางกลับประเทศหมดแล้ว หลังพยานหลักฐานยังไม่เชื่ยมโยงไปถึง แต่ตำรวจท่องเที่ยวก็มีการประสานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย หากมีพยานหลักฐานหรือต้องการขอข้อมูลเพิ่มก็พร้อมให้ความร่วมมือ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
