ครอบครัวเหยื่อเศร้าเข้ารับทราบผลชันสูตรศพ - ด้านตร.ปูพรมค้นเกาะเต่า จับต่างด้าวต้องสงสัย 20 ราย
จากกรณีฆาตกรรมโหดนายเดวิด วิลเลียม อายุ 24 ปี และน.ส.ฮันน่าห์ วิกตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ทั้งแรงงานชาวพม่าบนเกาะเต่า และเพื่อนชายของนายเดวิด มาสอบสวน และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเทียบเคียงกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 ก.ย. พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เผยว่า ผลพิสูจน์หลักฐานดีเอ็นเอที่ออกมาไม่ตรงกันกับหลักฐานที่ทางตำรวจส่งไปก่อนหน้านี้ โดยบาดแผลที่ใบหน้าของน.ส.ฮันน่าห์ วิกตอเรีย ผลจากการพิสูจน์ดีเอ็นเอตรงกับคราบเลือดของจอบที่พบในที่เกิดเหตุ ส่วนบาดแผลถูกตีศีรษะของนายเดวิด วิลเลียม ผลจากการพิสูจน์ดีเอ็นเอ ไม่พบในจอบที่เกิดเหตุ แต่ถูกของแข็งกระแทกที่ศีรษะอย่างแรง ซึ่งในที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐาน ส่วนกางเกงเปื้อนคราบเลือดของนายคริสโตเฟอร์ อลัน แวร์ เพื่อนของผู้ตายที่พบซุกซ่อนในกระเป๋านั้น จากการตรวจสอบพบเป็นเพียงโคลนและสี ไม่ใช่คราบเลือด
พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่ากับเริ่มนับ 1 ใหม่ ขณะที่กลุ่มคนร้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าไปที่คน 3 กลุ่ม 1.กลุ่มคนไทยที่อยู่บนเกาะ 2.กลุ่มแรงงานต่างด้าวหรือคนเอเชีย 3.กลุ่มนักท่องเที่ยวด้วยกัน ส่วนน้ำหนักทางเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวมากที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุโหดเหี้ยมทารุณ จากการก่อเหตุพฤติกรรมของแรงงานต่างด้าวมักใช้ความรุนแรง ขณะเดียวกันภาพชายชาวเอเชียที่ปรากฎอยู่ในกล้องวงจรปิด ทางตำรวจยังไม่ตัดประเด็นทิ้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่พบชายคนดังกล่าว
รายงานข่าวจากสถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าผลตรวจดีเอ็นเอจากอสุจิในช่องคลอดของนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ ปรากฎว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยแรงงานชาวพม่า 6 คน รวมถึงไม่ตรงกับดีเอ็นเอของเพื่อนชายชาวอังกฤษที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย
ทั้งนี้ ผลตรวจออกมาว่าในช่องคลอดมีดีเอ็นเอของผู้ชาย 2 คน และไม่ขัดแย้งกับดีเอ็นเอที่ก้นบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็ม ที่ตำรวจเก็บได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ หมายความว่าผู้ชาย 2 คนนี้ดีเอ็นเอตรงกับอสุจิในช่องคลอด และเป็นคนสูบบุหรี่มวนเดียวกัน ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอก้นบุหรี่ยี่ห้อมาลโบโร่ มวนที่ 2 ที่มีรอยลิปติกสีแดงติดอยู่ ปรากฎว่าตรวจดีเอ็นเอไม่ขึ้น และก้นบุหรี่มวนที่ 3 พบดีเอ็นเอของผู้ชาย 1 คน แต่ยังไม่ตรงกับดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยและดีเอ็นเอในช่องคลอด
เมื่อเวลา 11.30 น. นายไมเคิล แฮนค็อก เจ้าหน้าที่กงสุลอังกฤษ ประจำประเทศไทย พร้อมครอบครัวน.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิธเธอริดจ์ หนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ถูกฆาตกรรม เดินทางเข้าพบพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) เพื่อรับทราบผลการชันสูตรศพของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน รวมทั้งติดตามความคืบหน้าทางคดี โดยครอบครัวของนักท่องเที่ยวสาวอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และไม่ต้องการให้รายละเอียดใดๆ ต่อสื่อมวลชน เนื่องจากยังทำใจยอมรับความสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้ และไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เปิดเผยผลการชันสูตรศพต่อสื่อมวลชน
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ติดใจผลการชันสูตร แต่ขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวในประเด็นที่เป็นประโยชน์ และคำนึงถึงความรู้สึกของครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้การเดินทางมาของนายไมเคิล แฮนค็อก ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และยินดีเป็นผู้ประสานงานให้หากตำรวจต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะเดินทางลงพื้นที่เกาะเต่า เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังผลตรวจดีเอ็นเอจากศพนักท่องเที่ยวไม่เข้ากับดีเอ็นเอของกลุ่มบุคคลต้องสงสัยทั้งหมด
พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เดินทางมาประสานขอรับตัวนายคริสโตเฟอร์ อลัน แวร์ และน้องชายกลับไปอยู่ในความดูแลสถานทูตแล้ว คาดว่าทางสถานทูตจะดำเนินการส่งกลับประเทศภายในวันนี้ แต่หากตำรวจมีข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทางสถานทูตก็พร้อมประสานบุคคลทั้ง 2 ให้ ส่วนบาดแผลที่หลังมือของนายคริสโตเฟอร์ ทราบว่าเกิดจากการเล่นพลุไฟ มีใบรับรองแพทย์ยืนยัน สำหรับน้องชายนายคริสโตเฟอร์ จากการตรวจสอบพบว่าเดินทางจากเกาะเต่า มากรุงเทพฯ ก่อนเกิดเหตุ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป.กล่าวว่า มอบหมายให้พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ สว.กก.5 บก.ป.จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ ร่วมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยร่วมกับทางตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. สั่งการให้จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยประชุมร่วมกับตำรวจท้องที่และแบ่งงานกัน โดยตำรวจในสังกัดบช.ก.ได้แก่ ตำรวจน้ำจะเข้าไปดูเรื่องแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ เช่น แรงงานเรือประมง ส่วนตำรวจท่องเที่ยวและกก.5 บก.ป.จะร่วมสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ กับทางตำรวจท้องที่ รวมทั้งการติดตามตัวผู้ต้องสงสัย
ขณะที่บรรยากาศท่องเที่ยวช่วงค่ำคืนที่หาดทรายรี เกาะเต่า พบว่าตามสถานบันเทิง ร้านอาหาร มีนักท่องเที่ยวออกมาเที่ยวและรับประทานอาหารค่อนข้างบางตา ประกอบกับเป็นช่วงโลว์ซีซั่นจึงทำให้บรรยากาศดูเงียบเหงา ขณะที่บริเวณแหลมจ.ป.ร. หาดทรายรี ตามเส้นทางเดินและริมชายหาดตรงจุดที่เกิดเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ยังมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านเส้นทางดังกล่าวเป็นระยะๆ ทั้งเดินมาเป็นกลุ่มและมาเป็นคู่ สภาพทั่วไปยังอยู่ในความมืด ไม่มีแสงสว่างเพียงพอ
เมื่อเวลา 13.00 น. นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ชุด ฉก.ท่าเพชร และ ชุด ฉก.ร้อยเกาะ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 100 นาย เข้าสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 8 ตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และกลุ่มผู้นำชุมชนกว่า 200 นาย ลงพื้นที่ปูพรมไล่ล่าหาตัวผู้ต้องสงสัยชายชาวเอเชียตามภาพที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด
โดยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีความชำนาญและคุ้นเคยเส้นทางในพื้นที่ นำกำลังเข้าตรวจค้นในพื้นที่หลายหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่ป่า สวนมะพร้าว และบนเขา ในตำบลเกาะเต่า เข้าควานหากลุ่มผู้ต้องสงสัย ซึ่งการเข้าค้นบ้านแรงงานต่างด้าวในครั้งนี้ ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยเป็นแรงต่างด้าวประมาณ 20 และคนไทย 1 คนมาสอบปากคำโดยมี พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.ภูธรเกาะพะงัน และปลัดฝ่ายปกครองร่วมกันสอบปากคำ พร้อมเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจหาดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ
ครอบครัวเหยื่อเศร้าเข้ารับทราบผลชันสูตรศพ - ด้านตร.ปูพรมค้นเกาะเต่า
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ครอบครัวเหยื่อเศร้าเข้ารับทราบผลชันสูตรศพ - ด้านตร.ปูพรมค้นเกาะเต่า