ลอบบึ้มทางรถไฟ นราฯ เสียหายใช้งานไม่ได้ จนท.ขอ ฮ.บินตรวจหวั่นถูกลวงสังหาร

ลอบบึ้มทางรถไฟ นราฯ เสียหายใช้งานไม่ได้ จนท.ขอ ฮ.บินตรวจหวั่นถูกลวงสังหาร

  เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 12 ก.ย. ร.ต.ท.ธราพงษ์ เย็นใจ ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส

รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางรถไฟ สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4504 กรมทหารพรานที่ 45 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1104 ช่วงบริเวณหลังมัสยิดตันหยงลิมอ ม.7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ โดยแรงระเบิดสร้างความเสียหายต่อเส้นทางรถไฟ ทำให้รถไฟขาล่องและขาขึ้นทั้ง 14 ขบวน ไม่สามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกได้

 จึงพร้อมด้วย พ.อ.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผบ.กรมทหารพรานที่ 45
 
พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สส.สภ.ระแงะ ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมรุดเดินทางไปตรวจสอบเกิดเหตุ

 โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากชุดเฉพาะกิจนราธิวาส

สนับสนุนตรวจสอบความเคลื่อนของคนร้ายทางอากาศ รวมทั้งได้ขอสนับสนุนชุดสุนัขดมกลิ่นมาทำการตรวจสอบบริเวณรายรอบจุดเกิดเหตุ เกรงคนร้ายจะวางแผนลวงเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ซ้ำ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายระเบิด จะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

 พบว่าอานุภาพของระเบิดได้สร้างความเสียหายต่อรางรถไฟ จนมีสภาพคดงอเป็นระยะทาง 20 เมตร
 
และไม้หมอนซึ่งหล่อเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ถูกระเบิดเสียหาย จำนวน 3 ท่อน โดยใต้รางรถไฟมีหลุมลึก 1 เมตร กว้าง 3 เมตร และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวน ส.อ.ดุษฎี คงพัฒน์ หน.ชุด ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้นำกำลังพลรวม 6 นาย และชาวบ้านอีก 3 คน

ทำการเดินลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้ขบวนรถไฟท้องถิ่นที่ 448 ซึ่งรับส่งผู้โดยสารจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี แล่นผ่าน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทางได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ใต้รางรถไฟจนเกิดระเบิดขึ้นแต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

 อย่างไรก็ตามเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้รถไฟขบวนท้องถิ่นที่ 448
 
ซึ่งวิ่งออกจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ส่งผู้โดยสารได้เพียงแต่สถานีรถไฟเจาะไอร้อง และขบวนรถไฟขาล่องจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ถึงปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ต้องวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้เพียงแค่สถานีรถไฟตันหยงมัสเท่านั้น ซึ่งสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่แขวงบำรุงทางตันหยงมัส ทำการซ่อมแซมรางรถไฟให้แล้วเสร็จก่อน รถไฟทั้ง 14 ขบวน จึงสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ตามปกติ