รปภ.ฆ่าโหด ด.ญ. 4 ขวบ อ้างเมาเหล้าก่อเหตุ-จนท.ค้านประกันหวั่นหนี-ปชช.แห่ดูหน้าคนร้าย
วันที่ 8 ก.ย. ที่ บช.น. เจ้าหน้าที่คุมตัว นายชาตรี สีดี หรือ โอม ผู้ต้องหาฆ่าเด็กหญิงวัย 4 ขวบ และนำศพใส่ถุงดำทิ้งไว้ในท่อระบายน้ำ โดยพบศพที่ท่อระบายน้ำในซอยรัชดา-ท่าพระ 5 หลังพ่อแม่แจ้งว่าหายตัวไปจากบ้านพัก ย่านถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา โดยภายหลังฝ่ายสืบสวนได้ติดตามดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในอพาร์ตเม้นต์พบว่ามีชายต้องสงสัยเดินเข้าไปบริเวณห้องเก็บของซึ่งอยู่ด้านหลังของอาคารพีเอ็น อพาร์ตเม้นท์ และพบว่า ด.ญ. 4 ขวบ ได้เดินตามเข้าไป แต่ไม่พบว่าเดินออกมาอีก มีเพียงนายชาตรีได้เดินออกมาเพียงคนเดียวเท่านั้น
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปสำรวจด้านข้างอาคารดังกล่าวไม่พบสิ่งใด แต่มีกลิ่นเหม็นคลุ้งออกมาจากท่อระบายน้ำทิ้ง จึงทำการเปิดฝาและพบถุงดำถูกยัดไว้ภายในท่อโดยมีอวัยวะบางส่วนหลุดโผล่ออกมา จึงตรวจสอบและพบว่าเป็นน้องเนม เด็กหญิงที่ญาติประกาศตามหา
ฝ่ายสืบสวนจึงออกหาข่าวและสืบทราบว่านายชาตรี เป็น รปภ.เก่าอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์ดังกล่าว และย้ายออกไปเมื่อวันที่ 4 กันยายน และติดตามจนทราบว่านายชาตรีย้ายไปทำงานเป็น รปภ.แห่งใหม่ย่านบางรัก จึงนำตัวมาสอบสวน
นายชาตรี สารภาพยอมรับว่า วันเกิดเหตุได้นั่งกินเหล้าอยู่คนเดียวและได้เดินไปเข้าห้องน้ำ พบว่าน้องเนมได้เดินเข้ามาหา ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เนื่องจากมาขอเงินซื้อขนมอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ตนเมาสุราและเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงลากเด็กลงมือข่มขืนบริเวณหน้าห้องน้ำ โดยพยายามจะข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ อีกทั้งเด็กหญิงร้องขอความช่วยเหลือส่งเสียงดัง จึงบีบคอเด็กจนสลบและคิดว่าตายไปแล้ว จึงใช้ถุงดำที่วางอยู่บริเวณนั้นใส่ศพและพันปากถุงไว้ โดยนำศพอำพรางไว้ในท่อดังกล่าว จากนั้นเวลา 6 โมงเช้าของวันที่ 4 กันยายน ได้เก็บของและย้ายออกจากห้องพักเพื่อหลบหนี โดยนำเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งไว้ที่ปากซอยรัชดา-ท่าพระ 5 และได้หลบหนีไปจนถูกจับกุมได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตามนายชาตรี ยอมรับว่าไม่เคยทำบัตรประชาชนและไม่ทราบว่าพ่อแม่ของตนเป็นใคร โดยชื่อและนามสกุลดังกล่าวมีคนตั้งให้อีกด้วย
ทั้งนี้นายชาตรี ยืนยันว่า เป็นคนไทย แม้จะไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์ เพราะไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชน แต่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา ในฐานะช่วยราชการรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งควบคุมชั้นการสอบสวน ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่คนไทย เพราะที่แขนขวาและแขนซ้ายของนายชาตรี มีรอยสักเป็นภาษาพม่า ซึ่งจากนี้จะต้องมีการขยายผลต่อไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเพื่อตรวจสอบ รวมถึงจะต้องไปดูข้อกฏหมายว่าอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ถือเป็นอาชีพสงวนไว้เฉพาะคนไทยหรือไม่ หากพบว่าเป็นอาชีพสงวนไว้เฉพาะคนไทย ก็จะต้องตรวจสอบบริษัทพนักงานรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศต่อไปเช่นกัน แต่หากไม่ใช่อาชีพสงวน ก็จะต้องมีการปฏิรูปเรื่องกฏหมายเพราะถือเป็นอาชีพที่ดูแลความปลอดภัย จึงควรสงวนไว้ให้คนไทย
ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ จะนำตัวนายชาตรี ไปฝากขังที่ศาลธนบุรี โดยจะไม่นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ซึ่งในวันนี้ทางพันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้มอบเงินเยียวยาแก่ครอบครัวน้องเนมจำนวน 1 แสนบาท
เวลา 12.00 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่ศาลอาญา ธนบุรี ร.ต.ท.จิรันธนัน กลิ่นนิรัญ พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล นำตัว นายชาตรี สีดี อายุ 27 ปี อดีต รปภ. ของพีเอ็น อพาร์ตเม้นท์ ย่านบุคคโล ผู้ต้องหาคดีฆ่าอำพราง ด.ญ. 4 ขวบ ที่บริเวณ ด้านหลัง อพาร์ตเม้นท์ ดังกล่าว ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นจากการแถลงข่าวคำรับสารภาพที่ บช.น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ควบคุมตัวนายชาตรี ผู้ต้องหาเข้าภายในห้องฝากขังที่ศาออาญาเพื่อทำเรื่องส่งตัว ท่ามกลางการเฝ้าดูของประชาชนอย่างเนืองแน่น ที่ให้ความสนใจในคดีสะเทือนขวัญนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กเข้ามากั้น เพื่อรักษาความปลอดภัย
โดย ร.ต.ท.จิรันธนัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งเรื่องฝากขังผลัดแรกเป็นระยะเวลา 12 วัน ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือ เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำได้ ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือ ส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย โดยพนักงานสอบสวนยังยื่นเรื่องการคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน หากผู้ต้องหาได้ประกันตัว เกรงว่าจะหลบหนีแล้วเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจึงขอคัดค้านประกันตัว
รปภ.ฆ่าโหด ด.ญ. 4 ขวบ อ้างเมาเหล้าก่อเหตุ-จนท.ค้านประกันหวั่นหนี
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม รปภ.ฆ่าโหด ด.ญ. 4 ขวบ อ้างเมาเหล้าก่อเหตุ-จนท.ค้านประกันหวั่นหนี