หนุ่มลมชักกำเริบ ขับเก๋งมินิคูเปอร์พุ่งชนร้านทองแม่ทองใบ

เสี่ยร้านทองเมืองนนท์ โรคลมชักกำเริบ เหยียบคันเร่งรถหรูมิด พุ่งทะยานจากลานจอดรถใต้ดินห้างดัง ข้ามฟากปีนฟุตปาธพุ่งชนร้านทองสนั่น โชคดีไร้คนเจ็บตาย

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 2 ส.ค. ร.ต.ท.ณัฐกร วุฒิสุข พนักงานสอบ สน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุมีอุบัติเหตุ

รถเก๋งพุ่งเข้าไปภายในห้างขายทองชื่อทองใบเยาวราช แยกวัดตึกสาขา 1 ปากซอยภานุมาศ ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร เยื้องห้างสรรพสินค้า ดิโอลด์สยามพลาซ่า ไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ชีพ รพ.กลาง และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านทองดังกล่าว พบรถเก๋ง มินิ คูเปอร์ สีดำ ทะเบียน กม 44 นนทบุรี ปีนฟุตปาธขึ้นไปชนกับกระจกหน้าร้านทองจนแตกทั้งบานหน้ารถพังยับเยิน โดยคนขับคือ นายสมถวิล งามเนรมิตดี อายุ 44 ปี มีอาการชักเกร็ง และหมดสติอยู่ภายในรถ ทีมกู้ชีพจึงช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนนำส่งที่รพ.กลาง นอกจากนี้ยังมี น.ส. ธิดาพร คำปวน อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณนิ้วเล็กน้อย

จากการสอบสวนทราบ ว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมถวิลขับรถขึ้นจากทางลาดลานจอดรถใต้ดินของห้างสรรพสินค้า ดิโอลด์สยามพลาซ่า

ขณะที่จอดเพื่อชำระค่าจอดรถบริเวณป้อมเก็บเงิน จู่ ๆ นายสมถวิลก็เกิดอากาศชักเกร็ง ตาค้างเหมือนคนไม่ได้สติ ก่อนรถจะพุ่งขึ้นมาจากทางลาดชันวิ่งตัดถนนตรีเพชรด้วยความเร็วสูงพุ่งชนร้าน ทองอย่างจัง โชคดีที่บริเวณดังกล่าวไม่มีผู้ใดยืนอยู่ อีกทั้งยังไม่มีรถคันอื่นสัญจรอยู่บนถนนตรีเพชรด้วย

ด้าน นายนิวัตร ศรีศักดิ์ อายุ 40 ปี แฟนหนุ่มของ น.ส. ธิดาพรให้การว่า คนขับรถเป็นพี่เขยของตน และเป็นเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี

ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากบ้านพักที่นนทบุรี มาพร้อมแฟนสาวของตน เพื่อมาซื้อทองคำที่เยาวราชด้วยตนเอง ทั้งที่ปกติจะให้คนอื่นมาซื้อแทน โดยตนไม่ทราบแน่ชัดว่านายสมถวิลเป็นโรคลมชักหรือไม่ ทราบเพียงว่าพี่เขยมีโรคประจำตัวคือความดัน และเบาหวาน แต่แฟนสาวของตนที่นั่งมากับนายสมถวิลเล่าให้ฟังว่า จู่ ๆ นายสมถวิลก็เกิดอาการชักเกร็ง มือหงิกคล้ายเป็นลมชัก ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิดส่งผลให้รถพุ่งขึ้นมาจากลานจอดรถอย่างเร็วก่อนจะ พุ่งชนร้านทอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนขับน่าจะมีโรคประจำตัวคือลมชัก ซึ่งกำเริบขึ้นอย่างกะทันหันจนไม่สามารถควบคุมรถได้พุ่งชนร้านทองดังกล่าว อย่างแรง อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ และผู้ขับขี่เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.