ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์สั่งการ ห้าม นำรถขึ้นภูทับเบิกเด็ดขาด หลัง 3 สาวพยาบาลขับเก๋งฝ่าสายฝนขึ้นภูแล้วตกลงเหวลึก 200 เมตร ผู้ดูแลคาดมองไม่เห็นทาง ทำให้รถชนแผงกั้นก่อนพุ่งตกลงเหวลึก บนจุดสูงสุดของจุดชมวิว เสียชีวิตคาที่ 2 ราย อีกรายอาการสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.30 น. วันที่ 30 ส.ค. ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ คำสนิท พนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
รับแจ้งมีรถเก๋งนักท่องเที่ยวชนไม้กั้นหน้าผาบนภูทับเบิก หมู่ 16 ต.วังบาน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ แล้วพุ่งตกลงไปด้านล่างที่มีความลึกราว 200 เมตร มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสรวม 3 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสัก แพทย์ร.พ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า และเจ้าหน้าที่ทหารอากาศประมาณ 50 นาย ร่วมเดินทางไปให้ความช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบที่เกิด เหตุบริเวณทางขึ้นภูทับเบิก เป็นถนนคอนกรีตกว้างประมาณ 3 เมตร
ทำไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าขึ้นมาชมวิวและกางเต็นท์นอนบนยอดภูเท่า นั้น ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ขึ้นมา และเป็นจุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิกสูงประมาณ 1,768 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหน้าผาสูงเกือบ 200 เมตร พบรั้วไม้ที่ใช้กั้นริมหน้าผาถูกรถชนขาดสะบั้น ส่วนรถยนต์ที่ประสบเหตุเป็นรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ษฬ-490 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ก้นเหวลึกในสภาพหงายตะแคงข้างพังยับเยิน โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าและใช้เชือกโรยตัวไปตามหน้าผาที่มีความลาดชัน และลื่นจากฝนตกหนัก รวมถึงหมอกที่ลงหนาจัด จึงเป็นอุปสรรคอย่างมากในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และการนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากก้นเหว ต้องใช้เวลานานนับชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าไปถึงตัวรถ
ตรวจสอบบริเวณเบาะด้าน หน้าพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ราย ถูกอัดก๊อบปี้ติดคาเบาะ
ทราบชื่อคือ น.ส.มะลิจันทร์ อุ่นเพ็ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม.9 ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ คนขับ และน.ส.มะลิจันทร์ จุมแพง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.12 ต.น้ำเที่ยง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ซึ่งนั่งเบาะข้างคนขับ ในสภาพคอและแขนหัก นอกจากนี้บริเวณเบาะด้านหลังคนขับพบผู้บาดเจ็บสาหัส ร้องขอความช่วยเหลืออีก 1 ราย คือ น.ส.เนตรสุดา ทองนำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.9 ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ทั้งหมดเป็นพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงรีบให้ความช่วยเหลือ และนําตัวส่งร.พ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า แต่น.ส.เนตรสุดาเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบปากคํา นายนาศักดิ์ เจริญชัย ผู้ดูแลวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก
ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุมีฝนตกลงมาพรำๆ และมีหมอกลงจัด รถคันดังกล่าวขับมาจอดที่หน้าวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 150 เมตร จากนั้นคนนั่งเบาะหลังได้ลงมาสอบถามเรื่องที่พักค้างแรมและกลับไปที่รถ จากนั้นเห็นรถขับตรงขึ้นไปยังที่เกิดเหตุ ก่อนพุ่งชนรั้วกั้นหน้าผาตกลงไปเบื้องล่าง คาดว่าคนขับไม่ชำนาญพื้นที่และไม่ปฏิบัติตามกฎ ซึ่งจะตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
จุดเกิดเหตุเป็นจุดชมวิวธรรมชาติโดยรอบภูทับเบิก ตามปกติแล้วในฤดูท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถที่เตรียมไว้ให้ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุลงไปเพียง 150 เมตร จอดได้หลายร้อยคัน แล้วเดินเท้าขึ้นไปชมวิว สำหรับนอกฤดูท่องเที่ยวมีกฎระเบียบว่าตั้งแต่เวลา 19.00 น. ห้ามนำรถขึ้นไป โดยมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านภูทับเบิก ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ดูแล ส่วนใหญ่ผู้นำรถขึ้นไปมักจะเป็นผู้คุ้นชินกับพื้นที่ เนื่องจากลานชมวิวกว้างประมาณ 200 ตร.ว. เท่านั้น ทำให้การบังคับรถต้องรอบคอบเป็นพิเศษ ยิ่งช่วงเย็นไปแล้วการมองทางเป็นเรื่องยากลำบาก ทั้งนี้เมื่อเกิดเหตุขึ้น ตนสั่งการไปยังอำเภอให้ติดป้ายเตือนให้เรียบร้อยว่าห้ามนำรถขึ้นไปอีกเด็ด ขาด และรองบประมาณนำมาสร้างรั้วเหล็กแผงกั้นใหม่ให้แข็งแรงกว่านี้