ตามจากบู๊ธโอท็อป โจรฉก3ล.ทุบรถ-กวาดจิวเวลรี่

จอดกินข้าวต้มสูญเพชรพลอยเสี่ยเมืองตราดเสียท่าที่"อุดรฯ"สงสัยแขกขาว



ตามแกะรอยจากงานโอท็อป 4 ภาคเมืองอุดร โจรเชิงสูงฉวยจังหวะพ่อค้าจิวเวลรี่จากตราดจอดรถลงไปกินข้าวต้มรอบดึก

ลงมือทุบกระจกปิกอัพฉกเอากล่องบรรจุจิวเวลรี่ 2 กล่อง

จำนวนกว่า 300 ชิ้น มูลค่า 3 ล้านบาท หนีลอยนวล เจ้าของร้านมาพบเข้าถึงหน้าซีด เข่าอ่อน เผยระหว่างออกบูธมีแขกขาวมาเดินด้อมๆ มองๆ แต่ไม่ยอมสอบถามราคา จึงพยายามระวัง แต่แล้วก็มาโดนจนได้ ตำรวจสอบพยานเผยช่วงเกิดเหตุมี 2 โจ๋หญิงชายทำทีโทรศัพท์ป้วนเปี้ยนใกล้รถที่เกิดเหตุ

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 พ.ค.

พ.ต.ต.ศุภเชษฐ์ รังคะวงษ์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีการงัดรถยนต์ที่บริเวณสี่แยกชลประทาน ถนนวัฒนานุวงศ์ ต.หมากแข้ง มีทรัพย์สินสูญหายไปเป็นจำนวนมาก

จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ

พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดวิทยาการ พบรถยนต์กระบะแค็บ แครี่บอย ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง ทะเบียน น 7759 ตราด จอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงร้านจิตโภชนาการ ร้านข้าวต้มกลางคืน เลยสี่แยกชลประทานไปเล็กน้อย

ข้างรถคันดังกล่าว พบนายดำรง จี๋คีรี

อายุ 58 ปี และนางบุญมี จี๋คีรี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.10 ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด สองสามีภรรยา ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยใบหน้าซีดเซียว เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูสภาพรถพบว่ากระจกในแค็บด้านซ้ายถูกทุบด้วยของแข็ง



กระจกแตกเป็นรูกว้างประมาณ 9 นิ้ว

แล้วคนร้ายใช้มือล้วงเอากล่องพลาสติกสี่เหลี่ยม 2 กล่อง ที่ใส่เครื่องประดับจิวเวลรี่ จำพวกสร้อย แหวน กำไล ทองคำฝังเพชร และพลอย จำนวน 300 ชิ้น ราคาประมาณ 3 ล้านบาท ที่วางไว้บนเบาะในแค็บไป

นายดำรง ให้การว่าตนมีอาชีพเป็นพ่อค้า

เปิดร้านขายจิวเวลรี่ ชื่อร้านกิมบ่อเซี้ยง อยู่ที่จ.ตราด และวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยภรรยาและลูกสาวอีกคนมาเปิดบูธขายจิวเวลรี่ ในงานสินค้าโอท็อป 4 ภาค

ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจัดขึ้นที่ทุ่งศรีเมือง

อุดรธานี ระหว่างวันที่ 1-12 พ.ค.นี้ และมาพักอยู่ที่โรงแรมศิริแกรนด์ ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนหน้าเกิดเหตุ หลังปิดบูธแล้วเก็บสินค้าไว้ในกล่องทั้ง 2 และล็อกกุญแจเรียบร้อยแล้ววางไว้บนเบาะในแค็บ

แล้วพากันขึ้นรถแวะจอดกินข้าวต้มที่ร้านข้าวต้มจิตรโภชนา

ซึ่งอยู่ใกล้ที่พัก แล้วจอดรถไว้ฝั่งตรงข้ามร้าน ข้ามถนนไปกินข้าวต้ม ซึ่งใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ก็เสร็จแล้วก็จะขึ้นรถกลับที่พักพบว่ารถโดนทุบกระจก และเมื่อตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าจิวเวลรี่ทั้ง 2 กล่องหายไปแล้ว

นายดำรง ให้การต่อไปว่า

ก่อนจะเกิดเหตุ ขณะกำลังขายจิวเวลรี่อยู่ที่บูธในงานโอท็อป 4 ภาค ซึ่งมีร้านขายจิวเวลรี่มาเปิดบูธอยู่ 3 ร้านจาก 3 จังหวัด คือ จันทบุรี เชียงใหม่ และตราด สังเกตเห็นพวกแขกขาวกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาดูสินค้า



แต่ไม่สอบถามราคาแต่อย่างใดทั้ง 3 บูธ

จึงพากันคอยระวัง เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นพวกเดียวกับที่เคยเป็นข่าว แต่แล้วตนก็โชคร้ายโดนทุบรถเอาของมีค่าไปจนได้ อย่างไรก็ตาม ตนสงสัยว่าทำไมจึงไม่มีเสียงดังขณะที่คนร้ายทุบกระจก เพราะรถจอดห่างจากที่นั่งกินข้าวต้มเพียงฝั่งตรงข้ามเท่านั้น

พ.ต.ต.ศุภเชษฐ์ เปิดเผยว่า

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามพยานแวดล้อม พบว่าก่อนหน้าเกิดเหตุมีชายวัยรุ่นชายหญิงคู่หนึ่ง ฝ่ายชายสวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่หน้ารถที่เกิดเหตุ และทำทีคล้ายๆ ยืนพูดโทรศัพท์กันอยู่

และขึ้นรถขับหายไปก่อนเจ้าของรถ

จะเสร็จจากกินข้าวต้ม สันนิษฐานว่าคนร้ายคงเป็นมืออาชีพ และขับรถตามมาตั้งแต่บริเวณงานที่ทุ่งศรีเมือง เมื่อเห็นปลอดคน ประกอบกับที่เกิดเหตุ แสงไฟฟ้าไม่ค่อยสว่าง จึงใช้ค้อนทุบกระจกรถโดยมีวัตถุรองไว้ไม่ให้มีเสียงดัง และใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ปฏิบัติการได้สำเร็จ แล้วขโมยเอาทรัพย์สินไป

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

วิทยาการตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงตามกระจกรถ แล้วบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์