ระเบิดสมองอนาถ ´พันเอก´ เสธ.อ้น-กองพล9

"เสธ.อ้น ฆ่าตัวตายอนาถ"



เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 พ.ค. พ.ต.ต.ยิ่งยง มีคุณ สารวัตรเวร สภ.อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

ได้รับแจ้งเหตุคนยิงตัวตายอยู่บริเวณกลางทุ่งนา

หมู่ 14 ต.ปากแรต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุพัฒน์ เชยชิต ผกก. พ.ต.ท.ภูเบศ ภิญโญวิชิต รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.บรรจง อัมฤทธิ์ รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการ พญ.บุษรา เลหะศิริ แพทย์เวร รพ.บ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี ไปร่วมชันสูตรศพ

ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนากว้างอยู่ห่างจากหมู่บ้าน

ประมาณ 700 เมตร มีชาวบ้านพากันมายืนมุงดูจำนวนมาก บริเวณโคนต้นมะขามเทศข้างบ่อน้ำพบศพ พ.อ.บรรพต แก้วประพาฬ หรือ เสธ.อ้น อายุ 48 ปี ตำแหน่งนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา

สำนักงานเลขานุการกองทัพบก

สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อโปโลลายหลายสี นุ่งกางเกงขาสั้นสีกากี มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด หัวกระสุนไปฝังอยู่ที่ต้นมะขามเทศ ข้างศพพบปืน 11 มม. ทูตมรณะตกอยู่

ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้

ค้นในตัวพบซองจดหมายราชการทหารอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านซ้าย หน้าซองมีลายมือผู้ตายเขียนข้อความสั่งเสียภรรยา ระบุว่า ทราย พี่ขอโทษ ศพพี่อย่าให้พวกนั้นมายุ่งเกี่ยว



อย่าให้ลูกเป็นทหาร

ขอให้นำศพพี่ไปไว้ที่วัดโคกหม้อ ทำแบบเงียบๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ฝากดูแลลูกด้วย รัก พี่อ้น ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนางสุนิดา

หรือทราย แก้วประพาฬ อายุ 35 ปี ภรรยาผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 14 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ให้การทั้งน้ำตานองหน้าว่า แต่งงานอยู่กินกับสามีมานานหลายปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน

คนโตเป็นชายอายุ 4 ขวบ

ส่วนคนเล็กเป็นหญิงอายุ 1 ขวบเศษ ก่อนเกิดเหตุสามีออกจากบ้านไปตั้งแต่ตอน 6 โมงเช้า โดยไม่ได้บอกว่าจะไปไหน และไม่มีท่าทางว่าจะฆ่าตัวตาย กระทั่งมีชาวบ้านไปพบเป็นศพยิงตัวตายอยู่ข้างบ่อน้ำกลางทุ่งนา

ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร

ตอนแรกไม่เชื่อว่าสามีจะคิดสั้นเพราะไม่เคยมีปัญหาในครอบครัว ส่วนเรื่องงานสามีไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง เบื้องต้นคาดว่าชนวนเหตุฆ่าตัวตายน่าจะเกิดจากความเครียดในหน้าที่การงานของสามีก็เป็นได้

ด้าน พล.ต.อดุล อุบล ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี

อดีตผู้บังคับบัญชาของ พ.อ.บรรพต เผยว่า ผู้ตายเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 จปร.รุ่น 36 เคยดำรงตำแหน่ง หน.ฝ่ายกิจการพลเรือน กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ (ยศพันโท) ที่ผ่านมาถือเป็นบุคคลที่มีอัธยาศัยดี



ทำงานประสานกับหน่วยราชการต่างๆ

และทุกองค์กรได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสื่อมวลชนสามารถประสานได้ทุกสังกัด นอกจากนี้ ภรรยายังช่วยงานของกลุ่มแม่บ้านค่ายสุรสีห์เป็นอย่างดีเสมอมา ต่อมาได้ย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผบ.ร.9 พัน. 1

กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ (ยศพันโท)

เพียงไม่กี่เดือน จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เพิ่งได้รับคำสั่งย้ายไปดำรงตำแหน่งนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา สำนักงานเลขานุการกองทัพบก เลื่อนยศเป็นพันเอก โดยที่ตนไม่ทราบสาเหตุที่ถูกย้ายไปดังกล่าว

พ.อ.บรรพตเป็นคนเรียบร้อย จิตใจดีงามมาก

ไม่น่าคิดสั้นแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ แต่ พ.อ.บรรพตมีปัญหาอะไรน่าจะมาปรึกษากันอย่างพี่อย่างน้อง น่าจะสามารถหาทางออกให้ได้ อย่างไรก็ตาม

อยากฝากความเสียใจไปยังน้องทราย

ภรรยาของ พ.อ.บรรพต ด้วย ล่าสุดได้ส่งทหารของกองพล 9 ค่ายสุรสีห์ไปช่วยจัดงานศพอย่างเต็มที่แล้ว พล.ต.อดุลกล่าวในตอนท้าย



ส่วนนายวินิจ โรจนวงศ์ ประธานสภาวัฒนธรรมกาญจนบุรี

ฐานะนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นวันนักข่าว ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้ พ.อ.บรรพต ในฐานะที่ช่วยเหลือราชการกับสื่อมวลชนด้วยดีเสมอมา

พ.อ.บรรพตถือเป็นที่รักของคนทุกชนชั้น

โดยเฉพาะสื่อมวลชน จะประสานข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของกองพลทหารราบที่ 9 เป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะมาคิดสั้นแบบนี้ เพราะปกติเป็นคนนิสัยน่ารักร่าเริงเป็นกันเองกับคนรู้จัก ฝากความเสียใจไปยังครอบครัวของ พ.อ.บรรพตด้วย

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากบุคคลใกล้ชิด

พ.อ.บรรพตว่า ชนวนเหตุที่ทำให้คิดสั้นฆ่าตัวตายน่าจะมาจากความเครียดเรื่องหน้าที่การงาน เพราะแต่เดิม พ.อ. บรรพต เคยดำรงตำแหน่ง ผบ.ร.9 พัน. 1 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ยศพันโท

ถือว่ามีบทบาทหน้าที่สำคัญเป็นผู้บังคับกองพล

ที่คุมกำลังทหารของกองทัพ แต่อยู่ในตำแหน่งได้เพียงไม่กี่เดือนก็ถูกคำสั่งย้ายไปเป็นตำแหน่งประจำในสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ถึงแม้จะได้เลื่อนยศเป็นพันเอก แต่เหมือนถูกลดบทบาทในตำแหน่งหน้าที่ อาจทำให้เกิดความน้อยใจจนเครียดจัด ตัดสินใจฆ่าตัวตายดังกล่าว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์