ตำรวจภาค 8 สนธิกำลังร่วม ปปง. บุกค้นบ้านพักมาเฟียภูเก็ต อดีตนายกเทศมนตรีป่าตอง ชี้พฤติการณ์อั้งยี่ ซ่องโจร ตั้งองค์กรทำธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจรกีดกั้นผู้ประกอบการอื่น-เลี่ยงภาษี
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) น.อ.เพชรรัตน เทียนจันทร์ รองผู้อำนวยการกองพลทหารเรือ กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 3 นายสิทธิชัย เตี๋ยอำนวยชัย ผอ.สำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร และทหาร สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านของผู้มีอิทธิพลประกอบการกิจการผิดกฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต คือ นายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายปรีชาวุฒิ หรือ ปราบ กี่สิ้น และ นายปรีทวี หรือปัด กี่สิ้น บุตรชาย โดยในนายเปี่ยน และนายปรีชาวุฒิ เพิ่งถูกศาลออกหมายจับข้อหา อั้งยี่ ซ่องโจร ทั้งนี้ปฏิบัติการของ ปปง. ทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นเป้าหมายรวม 8 จุด ใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ประกอบด้วยด้วย จุดที่ 1.บ้านพักนายเปี่ยนและพวก จุดที่ 2 อาคารสำนักงานบริษัท ฟิโซนา จำกัด และบริษัทในเครือเลขที่ 73 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง จุดที่ 3 สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ รีโซเทล จุดที่ 4 สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ การ์เด้น รีสอร์ท จุดที่ 5 สำนักงานบริษัท ป่าตอง ฮอลลีวูด จำกัด จุดที่ 6 สำนักงานโรงแรมป่าตอง เบย์ เฮ้าส์ จุดที่ 7 สำนักงานป่าตอง เบย์อินท์ และจุดที่ 8 สำนักงานป่าตอง เบย์ ฮิลล์
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ปปง. ได้รับการประสานจากตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อทำการตรวจค้น ยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดของ นายเปี่ยนและพวก โดยใช้อำนาจตามมาตรา 58 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามฟอกเงิน ซึ่งครั้งนี้ ปปง.ใช้อำนาจตามมูลฐานความผิดกฎหมายฟอกเงินมาตรา 3(6) กรณีกระทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่และบังคับให้ได้ไปซึ่งทรัพย์จากผู้ประกอบการโรงแรมบริษัททัวร์ ในความผิดอั้งยี่ซ่องโจร กรรโชกทรัพย์ ทำตนเป็นมาเฟียผู้มีอิทธิพลจัดตั้งสหกรณ์แท็กซี่ มีการกีดกั้นแท็กซี่รายอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกมาให้บริการนักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และยังมีพฤติการณ์ขยายธุรกิจเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการอื่น เช่น อาคารบ้านเช่าโรงแรม สถานบริการ ร้านอาหาร สถานบันเทิง รถยนต์รับจ้าง ธุรกิจนำเที่ยวธุรกิจเครื่องดื่มของมึนเมาซึ่งในส่วนนี้พบว่ามีการพฤติการณ์ประกอบธุรกิจหลีกเลี่ยงภาษีด้วย สำหรับ นายเปี่ยน เคยเป็นกำนันอยู่ในพื้นที่ป่าตอง และเคยเป็นถึงอดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง แต่อาศัยอำนาจอิทธิพลขยายธุรกิจโดยข้อเท็จจริงยังพบว่ามีการนำรายชื่อบุคคลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่ของตัวเองย้ายมาอยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นฐานเสียงในการเลือกตั้งด้วย ซึ่งการตรวจค้นวันนี้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ตำรวจ และปปง. จะรวบรวมเอกสารเพื่อใช้อำนาจยึดอายัดทรัพย์สิน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัดได้
ด้าน พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายเปี่ยนและบุตรชาย มีพฤติกรรมจัดตั้งองค์กรขึ้นมากระทำผิดลักษณะด้วยการประกอบธุรกิจหลายอย่างบังหน้า ทั้งโรงแรม รีสอร์ท กิจการขนส่ง คือแท็กซี่ โดยมีการกีดกันทางการค้า และหลีกเลี่ยงภาษีตั้งแต่ปี 2548 จนนำไปสู่การรวบรวมหลักฐานและขอศาลออกหมายจับ 27 หมายจับ และมีหมายค้น 12 หมาย โดยหมายจับที่เหลือเป็นบุคคลที่อยู่ในเครือข่ายของ นายเปี่ยนและลูกชาย สำหรับการเข้าค้นบ้านพักเลขที่ 73 เจ้าหน้าที่ไม่พบ นายเปี่ยนและบุตรชาย พบเพียง นางศรีคำ กี่สิ้น อายุ 59 ปี ภรรยานายเปี่ยน และ นายจรรยา หนูเซต พนักงานขับรถของ บริษัท ฟิโซนาฯ พร้อมอาวุธปืนไรเฟิล 1 กระบอก โดย นางศรีคำ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพัก พบเอกสารจำนวนหนึ่งที่ถูกเคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ และระบุว่าไม่รู้ว่า นายเปี่ยน อยู่ที่ใด