เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ของออสเตรเลีย
รายงานว่า นายสตีฟ อายุ 46 ปี และนายเจมส์ อายุ 47 ปี คู่รักเพศเดียวกันชาวออสเตรเลียจากนครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นพ่อแม่แท้ๆ ของเด็กชายอายุ 3 สัปดาห์ชื่อ ไรห์ลีย์ ซึ่งจ้างหญิงชาวไทยอุ้มบุญให้ เปิดใจว่า คู่รักชาวออสเตรเลีย 20 คู่ที่รู้จักต้องหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมที่กรุงเทพฯ ด้วยความสับสนตึงเครียดเพราะกลัวปัญหาเรื่องจ้างอุ้มบุญเด็ก ขณะที่เงินทองเริ่มหมดลง พวกตนพยายามปลอบใจว่าอย่าเครียด ขอให้มองในแง่ดีว่าได้มีลูกแล้ว เป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะสร้างความผูกพันกับเด็ก แต่พวกเขาก็มีความสุขไม่ไหว ซึ่งพอพ่อแม่เครียดเด็กก็เครียดตาม เด็กๆ ร้องไห้งอแง ทุกคนทำเหมือนฟ้าจะถล่ม แต่ความจริงไม่ควรจะเป็นเช่นนี้
นาย สตีฟกล่าวว่า พวกตนยังมองโลกในแง่ดีแม้จะสับสนและลังเล โดยวางแผนจะพยายามเดินทางออกจากประเทศไทยให้ได้ต้นเดือนก.ย.ตามแผนเดิมที่ วางไว้
ด้านนายเจมส์กล่าวว่า ชาวออสเตรเลียหลายคนที่มาจ้างอุ้มบุญไม่สามารถติดต่อกับหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญ
ได้หลังจากมีการบุกทลายคลินิกอุ้มบุญ รวมถึงคลินิกทำเด็กหลอดแก้วทั้งหมดที่ชาวออสเตรเลียนิยมมาใช้บริการมากที่ สุดซึ่งถูกบังคับให้ปิดด้วย กรณีของพวกตนอาจจะง่ายเพราะลูกชายคลอดแล้วแต่พ่อแม่คู่อื่นควรต้องใจเย็น การตั้งครรภ์จะดำเนินไปเรื่อยๆ และเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างนิ่งแล้วพวกเขาน่าจะติดต่อแม่อุ้มบุญได้
ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ระบุด้วยว่า สตีฟและเจมส์เป็นหนึ่งในคู่รักชาวออสเตรเลียอีกราว 200 คู่ที่ต้องรอ
จนกว่าทางการไทยจะแก้ไขปัญหาเรื่องการอุ้มบุญและให้พวกเขา สามารถพาเด็กชายกลับประเทศได้ โดยทั้งสองเขียนข้อความไว้ในเฟซบุ๊กว่า แม้ว่าสถานการณ์นี้จะอยู่เหนือการควบคุมและแม้จะมีข่าวลือว่ามีคนถูกจับใน ข้อหาค้ามนุษย์หรือต้องส่งลูกของพวกตนกลับไปอยู่กับแม่ที่ให้กำเนิดหรือทิ้ง ไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศไทย พวกตนก็ยังมองในแง่ดีและหวังว่าจะพาลูกกลับบ้านได้ในเร็ววัน โดยทั้งสองมีลูกอุ้มบุญอยู่แล้ว 1 คนเป็นลูกสาวชื่ออไลชา อายุ 2 ขวบ จากการจ้างหญิงชาวอินเดียอุ้มบุญให้
หนังสือพิมพ์ของ ออสเตรเลียรายงานด้วยว่า ระหว่างการสัมภาษณ์นายเจมส์ถามลูกสาวว่ารักใคร ด.ญ.อไลชาตอบว่า
รักคุณพ่อและคุณพ่อ สำหรับด.ช.ไรห์ลีย์เกิดวันที่ 31 ก.ค. หนึ่งวันหลังจากตำรวจไทยกวาดล้างคลินิก อุ้มบุญ โดยเกิดจากแม่อุ้มบุญชาวไทย อายุ 30 ปี ซึ่งมีลูกอุ้มบุญอยู่แล้ว 2 คน โดยด.ช.ไรห์ลีย์ และด.ญ.อไลชาเกิดจากไข่ของผู้บริจาคคนเดียวกัน เป็นหญิงชาวออสเตรเลียวัย 30 ปีที่บินมายังกรุงเทพฯ ด้วยหลังจากเด็กคลอดเพื่อมาพบหน้าเด็ก ส่วนสตีฟและเจมส์เป็นพ่อของเด็กคนละคน
นายสตีฟกล่าวว่า แม่อุ้มบุญขอพบลูกชายหลังคลอด
โดยร้องไห้และทำให้ตนเห็นใจ มันเป็นอารมณ์ที่สับสนปนเป โดยเธอพูดว่าฉันมีความสุขถ้าพวกคุณมีความสุข ตอนนั้นพวกเราจึงได้รู้ว่ามันคือธุรกิจสำหรับเธอ เธอมี ความสุขที่ทำสิ่งนี้ให้เราและไม่ตั้งใจจะพรากเด็กไปจากเรา จากนาทีนั้นเราเลยอยากให้เธอได้พบเด็ก ได้ป้อนนมและอุ้มเด็ก
นาย เจมส์กล่าวอีกว่า ถ้าพวกตนไม่สามารถ พาไรห์ลีย์กลับบ้านได้นานหลายเดือน สตีฟจะอยู่ที่กรุงเทพฯ และหาโรงแรมราคาถูกพัก
ส่วนตนจะกลับไปทำงานในเมลเบิร์น เวลานี้ทั้งคู่ได้กู้เงินเพิ่มเติมเพื่อนำมาจ่ายค่าจ้างอุ้มบุญ ที่มีราคาหลายแสนบาท แต่ชาวออสเตรเลีย คู่อื่นๆ กำลังประสบวิกฤตทางการเงิน บางคนจะต้องตกงานถ้าไม่ได้กลับไปทำงานในเร็วๆ นี้ โดยวงเงินบัตรเครดิตของพวกเขาเต็มกันหมด พวกเขาต้องจำนองบ้านและกู้หนี้ยืมสิน พวกเขาเหล่านั้นเสียสละทุกสิ่งเพื่อเด็กที่ไม่สามารถ มีได้ที่ออสเตรเลีย จากที่คิดว่าคงจะมาอยู่ที่นี่สัก 5-6 สัปดาห์แต่ตอนนี้มีข่าวลือว่าพวกเขาจะต้องอยู่ 3-6 เดือน แต่ใครจะรู้ว่าต้องนานเท่าไหร่ แต่ละคู่ได้รับการบอกเล่าต่างกันไป
"พวก เขาไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี หวังว่ารัฐบาลทหารของไทยจะอนุญาตผ่อนผันให้กับผู้ที่ ทำสัญญาจ้างอุ้มบุญไปแล้ว ก่อนที่จะผ่านกฎหมายเรื่องการห้ามจ้างอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยยกเว้น เฉพาะที่เป็นญาติกันออกมา เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยน่าจะให้ความเห็นอกเห็นใจและสะท้อนว่าโลกนี้มีที่ให้ สำหรับการอุ้มบุญ" นายเจมส์ระบุ
ผวาชวดลูกอุ้มบุญ ออสซี่ในไทยวุ่น แฉ20คู่หลบซ่อน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ผวาชวดลูกอุ้มบุญ ออสซี่ในไทยวุ่น แฉ20คู่หลบซ่อน
เว็บไซต์น.ส.พ.ซิดนีย์ มอร์นิงเฮอรัลด์