วันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายจตุพร อรุณฤกษ์ถวิล ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI นายรณสิทธิ์ พฤษยาชีวะ ผอ.องค์การปราบปรามการค้ามนุษย์ NGO และนางสาวชลีรัตน์ ทิมบุตร ผู้ประสานงานพิทักษ์สตรี AAT เดินทางเข้าพบ พล.ต.พิชิต ฟูฟุ้ง ผบ.พล.ร.11 พร้อมนำหลักฐานการร้องเรียนจากผู้ปกครองหญิงสาวชาวลาวรายหนึ่ง ว่าบุตรสาวถูกหลอกให้มาทำงานร้านอาหารแต่ภายหลังถูกบังคับให้ค้าประเวณี โดยอาศัยอยู่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในเวิ้งหลังคาแดง ตั้งอยู่ริมถนนสายฉะเชิงเทรา – พนมสารคาม ม.11 ต.บางตีนเป็ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา
จากนั้นจึงรายงานให้นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผวจ.ฉะเชิงเทรา ทราบ พร้อมสั่งการให้ พ.อ.กล้าณรงค์ ไพรีพ่ายฤทธิเดช ผบ.ร.112 พ.อ.สุรินทร์ เจริญชีพ หน.ชุดปฏิบัติการปราบปราม กอ.รมน.จว.ฉะเชิงเทรา ประสานกับ พ.ต.อ.สัมพันธ์ เบญจศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ร่วมกันวางแผนเพื่อจับกุม โดยให้เจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้าไปซื้อบริการกับเด็กหญิงสาวชาวลาวที่ร้านดังกล่าว โดยทำการถ่ายเอกสารธนบัตรไว้เป็นหลักฐาน
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้นั่งสังเกตการณ์ก่อนที่จะขอซื้อบริการจากสาวลาว โดยจ่ายเงินให้กับเจ๊ไร ซึ่งเป็นแม่เล้า จำนวน 2,000 บาท เป็นค่าตัวหญิงสาวชาวลาวคนดังกล่าว จากนั้น ได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ จู่โจมเข้าจับกุมตัว เจ็ไร ทราบชื่อจริงคือ นางอุไร งามตา อายุ 52 ปี เอาไว้ได้ พร้อมเงินสดของกลางอยู่ในกระเป๋ากางเกง จากการตรวจค้นในร้านยังพบหญิงสาวชาวลาวอีกจำนวน 15 คน ส่วนหนึ่งนั่งรอรับบริการแขกที่ไปนั่งรับประทานเบียร์ ส่วนหนึ่งพักอยู่ในห้องซึ่งแบ่งซอยเป็นห้องเล็กๆอยู่ด้านหลังร้าน
จากการตรวจค้นเคาน์เตอร์ในห้องนอนและห้องทำงานของนางอุไร งามตา แม่เล้า พบเงินสดจำนวน 60,000 บาทพาสปอร์ตของสาวชาวลาว จำนวน 12 เล่ม สมุดบันทึกรายละเอียดการขึ้นห้องทำงานของสาวชาวลาวทั้ง 16 คน จำนวน 3 เล่ม รวมทั้งถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังตรวจสอบบริเวณร้านทั้งหมด พบว่า มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วน ส่วนที่ร้านนั้นจะมีการจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยจะมีหญิงสาวชาวลาวมาคอยให้บริการ ด้านในถัดไปเป็นทางเดินแคบๆ มีห้องพักขนาดกว้าง 2.5 เมตร ยาว 3 เมตร ประมาณ 20 ห้อง ปลูกเป็นแถวเรียงกันและเกือบทุกห้องจะมีกุญแจล็อคอยู่ด้านนอก ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมมีอยู่ 2ห้อง มีแสงไฟส่องสว่างเพียงสลัวๆ อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว ส่วนฝั่งตรงข้าม มีการปลูกสร้างห้องพักเป็นห้องๆ ค่อนข้างดี ที่หน้าห้องมีหมายเลขห้องพร้อมไฟสีแดง ภายในมีเตียงพร้อมที่นอนและติดแอร์อย่างดี ส่วนห้องน้ำมี 3 ห้อง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงสาวลาวทั้ง 16 คน ไปสอบสวนรายละเอียด ก่อนที่จะมอบให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปดูแลเบื้องต้น ส้วนนางอุไร งามตา แม่เล้า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนเพื่มเติม ที่สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป