สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามแนวชายแดนเข้มงวดกวดขันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ต่อมาทาง พ.ต.อ.ณัฏฐวุฒิ ยุววรรณ ผกก.สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวน สภ.แม่สาย ได้ตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอจูนเนอร์ สีบรอนด์ทอง หมายทะเบียน กท 231 ลำปาง บริเวณถนนพื้นที่หมู่บ้านธนธานี ม.6 ต.แม่สาย อ.แม่สาย ห่างจากชายแดนเพียงเล็กน้อย พบของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 800,000 เม็ด ยาเสพติดประเภทยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จับกุมตัวชายได้ 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ พ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิต ตำแหน่งเป็น รอง ผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี
โดยมี พ.ต.อ.วิรัตน์ สุมนาพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย เป็นผู้สอบสวน พ.ต.ท.ชำนาญ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพกับผู้บังคับบัญชาว่า ของกลางยาเสพติดทั้งหมดตนเป็นผู้รับจ้างขน จากขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่ทมไยใหญ่ ได้ค่าจ้าง 6 ล้านบาท โดยรับของกลางมาจากหน้าห้างโลตัสแม่สายเพื่อส่งเข้ากรุงเทพฯ สาเหตุที่ต้องทำอย่างนี้เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ที่ตนมีอยู่ อาทิ หนี้สหกรณ์ตำรวจ และผ่อนบ้านจำนวน 2 หลัง ซึ่งรวมหนี้สินทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ได้รับการติดต่อจากขบวนการให้ขนยาเสพติดล็อตดังกล่าวในจำนวนเงิน 6 ล้านบาท ตนจึงตัดสินใจรับงานนี้กระทั่งมาถูกจับ อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พงศพัฒน์ พงศ์เจริญ รอง ผบ.ตร. จะเดินทางไปตรวจสอบคดีและแถลงข่าวที่ สภ.เชียงราย ในเวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ต่อไป
เป็นนายตำรวจที่คุมการตั้งด่านสกัดจับยาเสพติดจนด่านสบปราบ มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของประเทศ สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดได้จำนวนมาก จึงถูกส่งไปอยู่ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดจากชายแดนที่ทะลักเข้ามาผ่านด่านผาหงษ์ ท้องที่อำเภอไชยปราการโดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารทำงานปราบปรามสกัดกั้นยาเสพติดติดได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ พ.ต.ท.ชำนาญ ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา ตำรวจภูธรภาค 5 ให้เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้กับตำรวจถึงวิธีการตั้งด่านและสกัดจับยาเสพติดด้วย