ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจรถไฟ จับกุมผู้ต้องหาวัย 19 ปี ที่ก่อเหตุลักทรัพย์เหยื่อบนโบกี้รถไฟตู้นอนชั้น 2 ตู้ที่ 10 ขบวนรถไฟสายกรุงเทพ-สุไหงโกลก เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้มีการวางยาผู้โดยสารก่อนลงมือแต่อย่างใด
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ.
พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผกก.6 บก.ป. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายโต้ง (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1411/2557 ลงวันที่ 16 ส.ค.57 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในยวดยานสาธารณะ(รถไฟ) ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร” พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซิมการ์ด 3 อัน และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ โดยจับกุมได้ที่ปากซอยคลองหลวง 50 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.อัคราเดช เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์บนโบกี้รถไฟตู้นอนชั้น 2 ตู้ที่ 10 ขบวนรถไฟสายกรุงเทพ-สุไหงโกลก
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา และผู้เสียหายหลายรายให้การว่ามีลักษณะมึนงงคล้ายถูกวางยานอนหลับ ทางบก.รฟ.จึงทำการประสานตำรวจ กก.6 บก.ป. เข้ามาช่วยทำการคลี่คลายคดี เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจากเเนวทางการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายโต้ง จึงรวบรวมหลักฐานจนสามารถขอออกหมายจับเเละจับกุมตัวได้
เบื้องต้น นายโต้ง ให้การรับสารภาพว่า จะเลือกที่นั่งท้ายสุดของโบกี้ เพื่อง่ายต่อการสังเกตผู้โดยสารเเละพนักงานทั้งหมด
เมื่อเห็นว่าผู้เสียหายรายใดหลับก็จะร่วมกับเพื่อน คือ นายอับดุลเลาะ สาหะ อายุ 21 ปี ลงมือลักทรัพย์ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ จากนั้นจะนำไปซ่อนไว้ตามซอกต่างๆภายในตู้โบกี้ เมื่อเจ้าหน้าที่มาค้นตัวจึงไม่พบของกลาง แต่ไม่ได้มีการวางยาผู้โดยสารก่อนจะทำการลักทรัพย์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องหาไม่ได้ทำกันเพียง 2 คน น่าจะมีบุคคลอื่นสมรู้ร่วมคิดด้วย จึงจะทำการสอบสวนขบายผลเพิ่มเติมต่อไป รวมถึงจะตรวจสอบดูว่าการลักโทรศัพท์ของเหยื่อในครั้งนี้ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ด้วยหรือไม่.