ป้าใจเด็ดโดดขวางหลานก่อนถูกพิทบูลขย้ำดับ เคราะห์ดีคนงานพม่าช่วยไว้ได้ก่อน แต่ก็ถูกกัดอ่วมเหมือนกัน ขณะเจ้าของหมายังเมินไม่รับผิดชอบ
วันนี้ (2ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีชาวบ้านถูกสุนัขกัดได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี โดยเหตุเกิดที่ถนนหมู่บ้านกล้วย ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพิเศษชั้น 7 พบนางวารินทร์ พลสงครามอายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ 5 ต.บางเค็ม นอนรักษาตัวอยู่บนเตียง สภาพมือซ้ายถูกสุนัขขย้ำกระดูกหักหมอใส่เฝือกไว้ ส่วนที่มือขวาและท้องถูกขย้ำเป็นเขี้ยวหลายแผล หมอต้องเย็บแผลหลายเข็ม โดยมีลูกหลานและญาติเฝ้าดูแลห่วงใยไม่ห่าง
นางวารินทร์ กล่าวว่า เย็นวานนี้ตนได้ขี่รถ จยย. ไปออกกำลังกาย
โดยพาหลานสาวไปด้วย 2 คน ระหว่างทางต้องผ่านบ้านของข้าราชการคนหนึ่งซึ่งเลี้ยงสุนัขพันธุ์อเมริกัน พิทบูลเอาไว้ โดยไม่รู้ว่าสุนัขที่เพื่อนบ้านหลังดังกล่าวเลี้ยงไว้หลุดออกมาข้างนอกได้ ยังไง 2 ตัว ตนจึงรีบลงจากรถ จยย. คว้าไม้มา เพราะกลัวว่าหมาจะมากัดหลาน ทันใดนั้นหมาก็พุ่งเข้ากัดตนจากนั้นตนพยายามตีแต่หมาก็กัดท้องตนจนล้มลง จนต้องยกมือขึ้นมากันเอาไว้ และระหว่างที่ถูกหมากัดชุลมุนอยู่นั้นมีคนงานชาวพม่ามาเห็นเหตุการณ์รีบเข้า ช่วยแต่ก็ถูกหมากัดไปหลายแผลเหมือนกัน กว่าที่หมาจะหนีไป และเพื่อนบ้านก็พาตนไปโรงพยาบาล
นางวารินทร์ กล่าวต่อว่า 2 ปี ก่อน หมาตัวดังกล่าวยังเคยหลุดเข้าไปที่บ้านของตน
ขณะนั้นหลานคนเล็กของตนอายุขวบกว่าๆ กำลังคลานเล่นในบ้านหมาเจ้ากรรมวิ่งไปเกือบถึงตัวหลานของตนแล้ว แต่โชคดีหมาของตนเลี้ยงไว้ที่บ้านป้องกันหลานเอาไว้ได้ แต่หมาก็ถูกกัดตายในที่สุด โดยเรื่องได้ถึงโรงพักแจ้งความกันมาแล้วและขอให้เพื่อนบ้านรายนี้นำหมา อเมริกันพิทบูลไปไว้ที่อื่น แต่ทางนั้นก็เฉยเรื่อยมาทำให้หลังจากนั้นไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร กระทั่งตนมาถูกกัด อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากเจ้าของสุนัขเลย และอยากให้เจ้าของหมานำหมาออกไปจากหมู่บ้าน เพื่อคนอื่นๆ หรือคนในหมู่บ้านจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนตนอีก
ด้าน น.ส.จีรนันทน์ ป้านสุวรรณ์ อายุ 23 ปี หลานสาวกล่าวว่า รู้สึกไม่ดีกับหมาของเพื่อนบ้านรายนี้มานานแล้วตั้งแต่ออกไปกัดหมาตัวอื่นๆ ในหมู่บ้าน
เพราะที่นั่นเป็นเขตชุมชนคนอาศัยอยู่เยอะหมามันดุ อันตรายกับคนในหมู่บ้านและไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว เคยแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่นให้มาช่วยดูแต่ก็ยังไม่ มีอะไรเปลี่ยนแปลง.