ชูวิทย์ เปิดเบื้องลึก บ่อนพนัน จาระไนทุกแง่มุม ของ ธุรกิจมืด สุดซับซ้อน

ชูวิทย์ เปิดเบื้องลึก บ่อนพนัน จาระไนทุกแง่มุม ของ ธุรกิจมืด สุดซับซ้อน

มติชนสุดสัปดาห์ 11-17 กรกฎาคม 2557



ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ผู้ที่ถูกจดจำใน "มาดเสี่ยจอมแฉ" กับวาทกรรม "ข้าวผัดจานละสามพัน" เพราะเคยเปิดโปงเรื่องการจ่ายส่วยต่างๆ และเขาผู้นี้เคยเป็นผู้เขย่าวงการสีกากีบ่อยครั้ง อีกทั้งยังเปิดโปงข้อมูลจนเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยน ผบ.ตร. มาแล้วครั้งหนึ่ง

จึงเป็นโอกาสทองที่ต้องล้วงลึกข้อมูลจากชายคนนี้ โดยเฉพาะเรื่อง "วงการบ่อนวงการพนัน" ท่ามกลางกฎอัยการศึก

เพราะตลอดช่วงเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ภาพของการเดินหน้าจัดระเบียบสังคมและการเร่งปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอบายมุข ทั้งบ่อนการพนัน ตู้ม้า จากการสนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ภายใต้การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มักมีภาพข่าวหน้าหนึ่งปรากฏให้เห็นเป็นรายวัน



ชูวิทย์เล่าว่า การทำงานของบ่อนการพนันในประเทศไทย ไม่เหมือนต่างประเทศ มีความแตกต่างกันสิ้นเชิง

เนื่องจากต่างประเทศมีการบริหารจัดการบ่อนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่จะเข้ามาควบคุมทุกอย่างทุกขั้นตอนทั้งระบบแลกชิป การจัดการเวลา มีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งระบบกล้องวงจรปิด การรักษาความปลอดภัยและการตรวจตราความเรียบร้อยต่างๆ ผิดกับในไทยที่ใช้คนเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่าง

นอกจากนี้ ยังเป็นความเข้าใจผิดของใครหลายคนที่ว่า เจ้าของบ่อนคือเจ้าของโต๊ะและเจ้าของสถานที่ทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะรายได้ของเจ้าของบ่อนจะมาจากค่าเช่า เช่น เปิดให้มีบาคาร่า 30 โต๊ะ ก็ทำให้มีรายได้จากการเช่าโต๊ะในแต่ละชั่วโมง

รายได้เจ้าของบ่อนที่มาจากค่าเช่าจึงมหาศาล เมื่อ 1 วัน มี 24 ชั่วโมง สมมุติเปิดให้เช่า 3 ช่วง ช่วงละ 8 ชั่วโมง โดยนักเล่นจะเช่าช่วงหนึ่ง ในราคาตั้งแต่ 80,000-120,000 บาท ถ้าเจ้าของบ่อนมี 10 โต๊ะ เปิดให้เช่า 3 ช่วง ช่วงละประมาณ 100,000 บาท เท่ากับว่า 3 ช่วง 10 โต๊ะ สร้างรายได้วันละ 3 ล้านบาท 1 เดือนมี 30 วัน ก็มีรายได้ 90 ล้านบาทต่อเดือน

แต่หากเป็นบ่อนใหญ่ๆ เช่น บ่อนนัมเบอร์วัน ที่มีสถานที่หรูหราวางโต๊ะได้มากมาย ประมาณ 30 โต๊ะ เจ้าของบ่อนจะมีรายได้ราว 270 ล้านบาทต่อเดือน

ส่วนการเชิญแขกเข้ามาเล่น อาจใช้ความสนิทสนม มีโปรโมชั่นหรือเปอร์เซ็นต์ให้ เพราะขาใหญ่ๆ ที่มาเล่น จะทุ่มทีละเป็นหลักล้าน ทำให้แต่ละบ่อนมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก


ในทัศนะของชูวิทย์ หากเปรียบง่ายๆ เจ้าของบ่อนเป็นเสมือนเจ้าของฟู้ดคอร์ต ที่ไม่ได้หมายความว่าต้องผันตัวไปขายข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด ราดหน้า แต่มีหน้าที่เชิญคนให้มาเปิดร้านเช่าพื้นที่ โดยผู้เช่าก็มีขาในแวดวงคนรู้จักต่างๆ ทั้งตำรวจ ทหาร นักการเมือง ดารานักแสดง ผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่รวมขาจร

แต่ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่า เจ้าของบ่อนยังไม่มีเทคโนโลยีหรือการควบคุมเช่นเดียวกับเมืองนอก อาทิ มาเก๊า หรือ ลาสเวกัส

เมื่อไม่มีเทคโนโลยีมาตรวจสอบ จึงต้องมีการจ้างเจ้ามือ ซึ่งไม่ใช่คนไทย (เพราะคนไทยจะมีญาติพี่น้องพรรคพวกมาเล่นแล้วมีปัญหาต่างๆ ตามมา) แต่ส่วนใหญ่เป็นคนเขมรมาทำหน้าที่ โดยเจ้ามือเหล่านี้จะมีคอนเน็กชั่นกับบ่อนที่ปอยเปต และเจ้าของบ่อนจะเช่าอพาร์ตเมนต์ให้บรรดาเจ้ามืออิมพอร์ตอยู่อาศัย

อีกสาเหตุหนึ่ง ที่ต้องจ้างคนเหล่านี้มาทำหน้าที่เป็นเจ้ามือ ก็เนื่องจากพวกเขามีความชำนาญ มีการคำนวณวิธีการจ่ายสตางค์ ทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างถูกต้อง เจ้าของบ่อนจึงเป็นคนบริหารในภาพรวมผ่านลูกน้อง ในแต่ละช่วงเวลาและเอารายได้ที่มีไป "เคลียร์"

แน่นอนว่าอีกหน้าที่สำคัญของเจ้าของบ่อน คือ การจะต้องไปเคลียร์กับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในการจัดสันปันส่วน เอารายได้จากค่าเช่าไปจ่ายให้บรรดาผู้ใหญ่

เป็นเหตุให้ต้องพึ่งคนมีบารมีที่ไม่พูดมาก ได้รับการไว้วางใจจากเจ้าหน้าที่ ในการเอาเงินสดไปเคลียร์ เนื่องจากวงการนี้จะไม่ทิ้งหลักฐาน ไม่มีการเขียนเช็คกระแสรายวัน หรือใส่ในบัญชี จะใช้เงินสดล้วนๆ

เลยจำเป็นต้องพึ่งคนมีบารมี ที่ต้องมีเครดิตและหน้าตาในสังคม เป็นผู้เคลียร์ อาทิ ผู้หลักผู้ใหญ่ อดีตนายทหาร นายตำรวจ เสธ.ต่างๆ ซึ่งจะเป็นผู้เอาเงินไปให้เจ้าหน้าที่อีกต่อหนึ่ง

ยิ่งกว่านั้นการทำบ่อนก็เหมือนการทำธุรกิจขนาดใหญ่นอกจากการเปิดให้เล่น การจ้างคนมาดูแลเป็นเจ้ามือแล้ว ยังมีการให้กู้ มีการคิดดอกเบี้ย มีการรับฝากรถ และยึดรถไว้เป็นประกัน บางบ่อนจะเห็นว่ามีรถจอดมากมายทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ มีการจ้างคนทำอาหาร เครื่องดื่ม มีแม่บ้าน มีการจัดการ ซึ่งพ่วงกับธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย

ส่วนลักษณะของบ่อนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมีความแตกต่างกันพอสมควร บ่อนในกรุงเทพฯ ไม่เคยย้ายหลักแหล่ง อยู่ทางไหนก็ยังตั้งอยู่ทางนั้น แม้โดนจับก็ไม่เคยย้าย เมื่อถูกจับแล้วก็ปิด ปิดแล้วก็เปิดใหม่ สังเกตได้ว่าบ่อนเตาปูน บ่อนเพชรบุรี บ่อนลอยฟ้า ไม่เคยย้ายสถานที่

ขณะที่บ่อนในต่างจังหวัด เมื่อถูกจับปิดแล้ว จะมีการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่อื่น


อย่างไรก็ตาม ชูวิทย์ยืนยันว่า ณ ปัจจุบัน บ่อนใหญ่ๆ ไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะปิดตัวลงหมด ทั้งบ่อนอมตะ บ่อนลอยฟ้า บ่อนบางนา บ่อนเตาปูน หลังทางการมีความเข้มงวด มีการเอาจริงเอาจัง

แต่จะดีกว่านี้ ถ้าทำได้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งบ่อนใหญ่ๆ เหล่านั้น ต้องปิดตัวลงอย่างถาวร

ส่วนบ่อนนัมเบอร์วันที่มีการบุกเข้าตรวจค้นเมื่อเร็วๆ นี้ ชูวิทย์เล่าให้ฟังว่า บ่อนดังกล่าวมีเจ้าของเดียวกับบ่อนรัชดาเดิม ซึ่งเคยพูดไปนานแล้วแต่ไม่มีคนเชื่อ ไม่มีใครฟัง

ส่วนที่มีบุคคลหนึ่งออกมาอ้างว่าเป็นเจ้าของบ่อน ก็ไม่ใช่เจ้าของบ่อนตัวจริง และกรณีที่มีผู้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ามีดาราชื่อดังเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วยนั้น ก็ได้แต่พูดกันออกข่าว

เพราะการพูดว่าใครจะเกี่ยวข้องบ้างเป็นการพูดปากเปล่าไม่มีหลักฐานใดๆ เนื่องจากการประกอบกิจการ ก็ใช้จ่ายกันด้วยเงินสด จนสาวไปถึงตัวต้นตอลำบาก หาหลักฐานอะไรไม่ได้ มีเพียงคนวงในที่รู้กัน

ฉะนั้น จะไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่าใครเป็นเจ้าของบ่อน ต้องพึ่งพาภาพจะจะจากกล้องซีซีทีวี อัดเทปเสียง เท่านั้น หน่วยงานราชการไทยจึงต้องทำงานให้เร็ว โดยเป็นไปได้ว่ามีคนทุกวงการเกี่ยวข้องกับบ่อนชื่อดังที่ว่า

เมื่อครั้งที่ชูวิทย์เข้าไปรายงานตัวกับคสช. เขาได้ให้ข้อมูลบ่อนทั่วประเทศไป รวมทั้งเรื่องที่ชาวบ้านมาร้องเรียนกับตน ตอนนี้หัวหน้าพรรครักประเทศไทยมีความรู้สึกว่า ประเทศไทยภายใต้การควบคุมอำนาจของ คสช. มีความเข้มงวดมากขึ้นตามการประกาศใช้กฎอัยการศึก

ส่วนการจะทำให้ปัญหาการพนันหมดไปนั้น ชูวิทย์มองว่า ต้องแก้กฎหมายระยะยาว เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันที่ใช้อยู่ ฉบับ พ.ศ.2476 มีการกำหนดการพนัน บัญชี ก. บัญชี ข.

โดยเห็นว่าควรมีการแก้ไขกฎหมาย เพราะมีการเล่นพนันบางอย่างที่เลิกไปแล้ว เช่น ในการละเล่นพนันตามงานวัดสมัยก่อน

นอกจากนี้ ปัจจุบัน รูปแบบของการพนันได้เปลี่ยนไปอย่างมาก มีทั้งการพนันออนไลน์ หรือ ตู้ม้า ตู้ดีด เป็นต้น อย่างตู้ม้า ที่ผ่านมาการจับกุมก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้ เพราะไม่มีความผิด เลยทำได้เฉพาะเอาผิดการนำเข้าแผ่นวงจรที่ไม่ถูกกฎหมาย

ส่วนตำรวจก็ไม่กล้าเข้าไปจับกุมตรวจค้นสถานที่เล่นพนันทั้งหลายเพราะการจะเข้าไปตรวจค้นต้องมีบ้านเลขที่ พวกเจ้าของบ่อนจึงมักเอาบ้านเลขที่ออก จนตำรวจออกหมายค้นไม่ได้

อย่างไรก็ตาม คนในพื้นที่ล้วนรับทราบกันดีว่าบ้านหลังไหนเปิดบ่อนการพนัน เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าไปจับกุมได้ เพราะกว่าทางบ่อนจะขนย้ายอุปกรณ์การพนันหนีไปได้หมด ก็ต้องใช้เวลานานเป็นวัน

เช่นเดียวกับการตรวจสอบการเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเจ้ามือก็จะบอกเลขบัญชีธนาคารทิ้งเอาไว้ หรือมีหลักฐานการส่งเอสเอ็มเอส ส่งไลน์ มีลิงก์ที่ชัดเจน ตำรวจจึงสามารถเข้าไปดูเบอร์บัญชีตรวจสอบได้

ตามความเห็นของชูวิทย์ สุดท้ายแล้ว จึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องปรับตัวเอง และอยากให้เจ้าหน้าที่สรรพากรเข้ามาร่วมทำงานในการปราบปรามบ่อนการพนันด้วย เพราะมีหน่วยงานสืบสวนที่สามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้

ภาครัฐจึงต้องมีการทำงานร่วมกัน เพราะถ้าทำเพียงหน่วยเดียว ก็จะลำบาก แล้วปัญหาก็จะหวนกลับมาเช่นเดิม

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์