ยัน“พระสุเทพ” เตรียมเดินทางมาศาลตามนัดตรวจพยานหลักฐานคดีสั่งสลายการชุมนุมนปช.ปี 53 วันที่ 28 ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีศาลอาญาได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.1375/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายก ฯ และอดีต ผอ.ศอฉ.ซึ่งขณะนี้บวชเป็นพระฉายา พระสุเทพ ปภากโร เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบ ม.80,83,84,90 กรณีร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ด้วยการออกคำสั่ง ศอฉ.ให้เจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณ ถนนราชดำเนิน และแยกราชประสงค์จากกลุ่ม นปช. ที่ชุมนุมตั้งแต่เดือน เม.ย.- 19 พ.ค.53
กระทั่งนายพัน คำกอง ชาว จ.ยโสธร อายุ 43 ปีคนขับแท็กซี่ และ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา อายุ 14 ปี
เสียชีวิตบริเวณใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ทลิงค์ สถานีราชปรารภ วันที่ 15 พ.ค.53 และนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ถูกกระสุนยิงมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ที่รักษาการณ์ในพื้นที่ย่านราชปรารภ ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ในวันที่ 28 ก.ค. เวลา 9.00น.นั้น
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวพระสุเทพ ปภากโร จะเดินทางมาศาลอาญาตามนัด
เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญาที่มีโทษสูงกว่า10 ปี จำเลยจึงต้องเดินทางมามาศาลทุกนัด และไม่สามารถขอไต่สวนลับหลังได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าพระสุเทพจะลาสิกขา หรือจะมาทั้งในสมณเพศ ส่วนวันเดียวกัน ที่ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งที่เราได้ร้องขอขยายวันยื่นคำให้การคดีที่พระสุเทพตกเป็นจำเลย กรณีที่กระทรวงการคลังยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 536,986 บาท จากการที่พระสุเทพนำมวลชน กปปส. เข้าไปในพื้นที่กระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์สำนักงบประมาณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 26 พ.ย.56 พระสุเทพไม่จำเป็นต้องเดินทางมาฟังคำสั่งด้วยตัวเองสามารถส่งผู้แทนไปร่วมฟังได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันดังกล่าวศาลอาญายังนัดฟังคำสั่งที่อัยการยื่นคำร้องขอให้อนุญาตรวมพิจารณาคดีหมายเลขดำอ.4552/2556 ของนายอภิสิทธิ์กับสำนวนที่ยื่นฟ้องนายสุเทพ เนื่องจากมูลเหตุคดีเกี่ยวพันพยานหลักฐานที่จะนำสืบเป็นชุดเดียวกันด้วย.