สุดสลด โจรวางยาฆ่าช้าง-ตัดงา วันพระใหญ่ ชี้ทำผิดวิธี-เชื่อเจออาถรรพ์เลวร้าย!
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.ปัญญา อำมาตย์เสนา พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีช้างของวังช้างอยุธยาแลเพนียดถูกวางยาเสียชีวิตแล้วถูกตัดงา ที่บริเวณริมแม่น้ำลพบุรี ติดกับถนนสายสวนพริก-บ้านเกาะ ม.6 ต. บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.เอนก พงษ์สวัสดิ์ รองผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบชาวบ้านจำนวนมากมุงดูอยู่ ต่างรุมสาปแช่งความโหดร้ายของคนร้าย ที่บริเวณริมแม่น้ำลพบุรี พบศพ พลายคล้าว อายุ 40 ปี นอนเสียชีวิต ลิ้นจุกปากมีสีม่วงคล้ำ ที่งาทั้งสองข้างมีร่องรอยถูกตัดออก มีสีเขียวของใบเลื่อยติดอยู่ งาด้านซ้ายถูกตัดออกจนสุด ที่งวงช้างมีบาดแผลถูกคมใบเลื่อย งาด้านขวาที่ติดกับพื้นดิน เหลืองาอยู่ประมาณ 10 ซม. ใกล้กันพบใบเลื่อยสีดำหัก ยาวประมาณ 30 ซม. ตกอยู่ แหวนรอง ที่ใส่ใบเลื่อยตกอยู่ 1 อัน ใกล้กันพบกล้วยน้ำว้าและเปลือกล้วยตกอยู่จำนวนหนึ่ง
สอบสวนนายพัน ศาลางาม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/2 ม. 2 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ควาญช้างของพลายคล้าว กล่าวว่า พลายคล้าว ซึ่งมีอาการตกมันและเป็นช้างที่มีงาสวยงามมาก งาจะยาวประมาณ 90 ซม. จึงได้แยกเอาไว้บริเวณที่เกิดเหตุได้ประมาณ 1 อาทิตย์ อาการตกมัน เริ่มจะหาย เตรียมที่จะนำกลับไปไว้ที่หมู่บ้านเพนียดหลวง ต.สวนพริก ฝั่งตรงข้าม ตนเองจะเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดทุกวันเช้าและเย็น ส่วนช่วงกลางคืนไม่มีคนเฝ้า ช่วงเช้ามีคนมาบอกว่าเห็นช้างนอนอยู่ จึงรีบมาดูพบว่าถูกวางยาฆ่าตัดเอางา
ช่วงเย็นได้เข้ามาดูช้างและให้อาหารแต่ไม่ได้ให้กล้วยกับช้าง เชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำอาหารผสมยาสลบชนิดร้ายแรงมาก ให้ช้างกินจนสลบแล้วล้มลง จากนั้นได้ใช้ใบเลื่อยตัดงา จิตใจคนร้ายมันทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้ทำกับช้างได้ขนาดนี้ ปกติช้าง ถ้าคนที่ไม่มีความคุ้นเคยจะไม่สามารถเข้าใกล้ช้างได้ ที่ผ่านมาเคยมีคนร้ายลอบตัดงาช้างมาแล้วในปางช้างหลายจังหวัด แต่ยังไม่มีการจับกุมคนร้ายได้
นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างแลเพนียด กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ก่อนหน้านี้ มีช้างของมูลนิธิหัสดินทร์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกคนร้ายลอบตัดงาช้าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2557 ซึ่งก่อนหน้านี้ ช้างของมูลนิธิหัสดินทร์ เคยโดนตัดงามาแล้ว เมื่อปี 2554 ครั้งนั้น คนร้ายตัดถึงโคนงา ถูกงวงช้างทำให้ช้างเสียชีวิต ทางหมู่บ้านช้างของตน เรามีช้างงา กว่า 30 เชือก หลังมีข่าวการลักลอบตัดงาช้าง เราได้นำเข้ามาในหมู่บ้าน แต่พลายคล้าวมีอาการตกมัน จึงได้ให้ควาญช้างแยกเอาไปเลี้ยงเอาไว้จากช้างเชือกอื่นๆ
ในที่เกิดเหตุ มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้ ต้องให้ควาญช้างใช้อาวุธปืนยาวออกตรวจในเวลากลางคืนคอยเฝ้าระวัง แต่ภายหลัง คสช.มีประกาศห้ามครอบครองอาวุธปืน จึงได้ให้ควาญช้างเพียงแค่ขี่รถจยย.ไปตรวจเท่านั้น ถือว่าเป็นการฆ่าช้างกลางเมืองไม่ใช่กลางป่า ไม่เกรงกลัว
ฝากคสช.ช่วยแก้ปัญหาด้วย คนร้ายกล้าที่จะลงมือไม่เกรงกลัว เชื่อว่าคนร้ายหวังเอาเพียงงาช้างไปขายและไม่น่าจะเป็นกลุ่มชาวช้างหรือผู้ที่มีความรู้เรื่องช้าง เพราะถ้าเป็นกลุ่มชาวช้างจะตัดงาจนถึงโคนไม่ตัดแบบนี้และจะเอาหางช้างไปด้วย งาช้างคูนี้ ถ้าตัดเอาไปแบบสมบูรณ์จะมีราคาถึงคู่ละ 4 ล้านบาท ส่วนที่คนร้ายตัดไปเป็นเศษงา ขายได้ประมาณ 5-6 หมื่นบาท คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นเสพยาเสพติด ในตำบลสวนพริก ลอบเข้ามากลางดึก โดยใช้อาหารที่ผสมยาสลบ ล่อให้ช้างกิน ยาชนิดที่คนร้ายใช้นี้เป็นยาควบคุม ไม่ใช่สัตวแพทย์ จะสั่งซื้อยาชนิดนี้ได้
คนร้ายน่าจะใช้ใบเลื่อยมือในการตัดงาต่อข้าง ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที งาช้างที่ได้ไป ตัดไปไม่ถูกกรรมวิธีของชาวช้าง คนที่เอาไป คนที่ครอบครอง จะต้องพบเจอกับความอาถรรพ์ มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับครอบครัว
พล.ต.ต.เสริมคิด เปิดเผยว่า ต้องทำการพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อนว่าช้างเสียชีวิตด้วยวิธีการใด ถูกวางยาหรือถูกด้วยลูกดอกอาบยาสลบจนเสียชีวิต ต้องร่วมกับทางสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานในการตรวจสอบถึงวิธีการฆ่าช้าง ให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจหาเส้นทางของคนร้าย พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางด้วย การกระทำของคนร้ายถือว่าโหดเหี้ยมที่ทำกับช้าง ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง โดยเฉพาะการลักลอบตัดงาช้าง ขายงาช้าง เป็นเรื่องที่นานาชาติมีการต่อต้านสร้างความเสียหายชื่อเสียงของประเทศไทย คดีนี้ต้องจับกุมคนร้ายให้ได้