โอละพ่อ! ด.ช.วัย 13 หนีจากบ้าน อ้างถูกหลอกบังคับทำงานเกาะสมุย ที่แท้กุเรื่อง

โอละพ่อ! ด.ช.วัย 13 หนีจากบ้าน อ้างถูกหลอกบังคับทำงานเกาะสมุย ที่แท้กุเรื่อง

 กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ!! เมื่อเด็กชาย วัย 13 ปี และ เพื่อนวัย 15 ปี อีก 2 คน หนีออกจากบ้านที่จังหวัดลพบุรี โดยสารรถไฟมาลงหัวลำโพง ถูกชายอายุ 40 ปี หลอกชักชวนให้มาทำงานที่เกาะสมุย จึงตัดสินใจเดินทางโดยสารรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยกันทั้งหมด เมื่อมาถึงเพื่อนอีก 2 คนได้แยกกัน โดยเด็กชาย วัย 13 ปี มีคนมารับเป็นชายไทยขับรถกระบะนิสสัน สีดำ และเมื่อมาทำงานที่เกาะสมุยได้ถูกบังคับให้ออกขายของ และถูกทำร้ายร่างกายด้วยการตบตีทุกวัน จนทนไม่ไหวหนีออกมาขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อตรวจสอบความจริงแล้วจนทราบว่าเด็กชายวัย 13 ปี กุเรื่องขึ้นมา ความจริงแล้วเด็กได้ขโมยเงินของยายมาจนหมด แล้วหนีออกจากบ้านกับเพื่อนอีก 2 คน ก่อนมาเจอคนที่หมู่บ้านเดียวกันที่ทำงานเร่ขายที่นอนปิกนิกบนเกาะสมุย จึงชักชวนกันมาโดยไม่ได้บังคับขู่เข็ญ และทำร้ายร่างกาย ส่วนยายได้แจ้งความคนหายไว้เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเด็กชาย 15 ปี อีก 2 คนได้กลับไปอยู่บ้านที่ จ.ลพบุรีแล้ว

 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แจ้ง ผู้สื่อข่าว ข่าวสด ว่า พบเด็กชายไทยทราบชื่อว่า ด.ช.มาร์ค (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เดินอยู่บริเวณถนนเลียบชายหาดเฉวง หมู่ 2 ต.บ่อผุด อำเภอเกาะสมุย มาร้องขอความช่วยเหลือกับอาสาสมัครกู้ภัย โดยบอกว่าหลบหนีออกมาจากบ้านพักที่ถูกคุมขังแห่งหนึ่ง แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนบนเกาะสมุย

 

 อาสาสมัครกู้ภัยจึงนำตัวไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจซักถามเบื้องต้น เด็กชายคนดังกล่าวบอกว่า พ่อแม่แยกทางกันอยู่ มีพี่น้อง 6 คน และได้อาศัยอยู่กับยายที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี ไม่ได้เรียนหนังสือ และเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้ชวนเพื่อนอีก 2 คน อายุ 15 ปี หนีออกจากบ้าน เพื่อมาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดยได้โดยสารรถไฟฟรีจากลพบุรี มาลงที่หัวลำโพง ระหว่างที่เดินอยู่ในหัวลำโพง ได้ไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 35-40 ปี ชายคนดังกล่าวได้ชวนไปทำงานที่ภาคใต้ด้วยกัน ตนจึงตอบตกลง 

 จากนั้นจึงขึ้นรถไฟจากหัวลำโพง ขบวนรถกรุงเทพ-นครศรีธรรมราช มาถึงที่สถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 24 มิ.ย. ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน มีคนขับรถยนต์กระบะนิสสัน สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มารับขึ้นรถ ลงเรือเฟอร์รี่ข้ามมายังเกาะสมุย ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ชื่อ นายกร และ นายกิ๊ก อายุ 15 ปี ไม่ได้มาด้วย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าไปไหน และไม่ทราบชะตะกรรม ส่วนตนเมื่อถึงเกาะสมุย ผู้ชายคนดังกล่าว ได้บังคับให้ทำงาน ทำร้ายทุบตี จนทนไม่ไหว ต้องหนีออกมาขอความช่วยเหลือ

 ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานไปที่ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลพบุรี เพื่อให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลทราบว่า พ.ต.ท.สำเร็จ จันทวี รองผกก.สส. สภ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 106 ม.5 ต.โคกเจริญ ซึ่งเป็นบ้านยายของเด็กชายมาร์ค และได้ทำการคุยโทรศัพท์กับนายกร และนายกิ๊ก อายุ 15 ปี ที่เด็กชายมาร์คอ้างว่าถูกขังตัวและไม่รู้ชะตากรรม ทำให้ทราบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เด็กชายมารค์ กุเรื่องขึ้นมา ความจริงแล้ว ด.ช.มาร์ค นายกร และนายกิ๊ก ได้หนีออกจากบ้านที่ จ.ลพบุรี เพื่อเดินทางไปทำงานที่เกาะสมุยกับญาติคนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายที่นอนฟองน้ำปิกนิก โดยได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่นายกรและนายกิ๊ก หลังทำงานได้เพียง 7 วัน ก็คิดถึงบ้าน จึงขออนุญาตกลับก่อน ส่วนด.ช.มาร์ค ไม่กล้ากลับเพราะขโมยเงินยายมา

 ด้าน พ.ต.ท.สำเร็จ รองผกก.สืบสวน สภ.โคกเจริญ กล่าวว่า ทางญาติๆ ของด.ช.มาร์ค ทราบเรื่องแล้ว และก่อนหน้านี้ทางยายของด.ช.มาร์ค ได้ไปแจ้งความคนหายเอาไว้ที่ สภ.โคกเจริญ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในเรื่องดังกล่าวทางยายของเด็กชายมาร์ค จะทำการถอนแจ้งความ พร้อมกับให้ทางตำรวจช่วยประสานกับตำรวจ สภ.บ่อผุด เกาะสมุย เพื่อให้ด.ช.มาร์คเดินทางกลับลพบุรีต่อไป 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด