2 นักเรียนไปหลบฝนบนอัฒจันทร์สนามฟุตซอล ถูกไฟดูด ตาย 1

เบื้องต้นจากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของนายพงษ์กร  ยอดขุนเณร  อายุ 14 ปี นักเรียนของโรงเรียนวัดแหลมฟ้าผ่า

เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 สภาพศพเสียชีวิตก่อนนำตัวมารักษา สวมกางเกงสีกากีเสื้อเชิ๊ตขาสั้นสีม่วงมีสัญญาลักษณ์ปักชื่อชุดของโรงเรียน ส่วนอีกรายได้รับบาดเจ็บสาหัส ชื่อ นายอภิรักษ์  ปลอดโปร่ง อายุ 14 ปี นักเรียนของโรงเรียนวัดแหลมฟ้าผ่า เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2  ต่อมาทางโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ต้องนำส่งรักษาตัวอย่างเร่งด่วน ต่อที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ โดยผู้บาดเจ็บรายนี้ยังสวมใส่เสื้อผ้าชุดนักเรียนของโรงเรียนแบบเดียวกัน

จากการสอบสวน นายชลธิต  สมความคิด ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์และพละศึกษาของโรงเรียนวัดแหลมฟ้าผ่า กล่าวว่า 

ก่อนเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงที่ทางโรงเรียนวัดแหลมฟ้าผ่าปล่อยนักเรียนทั้งหมด กลับบ้านตามปกติ พอดีช่วงนั้นฝนตกหนัก และรับผิดชอบเป็นครูเวรของโรงเรียนจึงเดินออกตรวจนักเรียนให้กลับบ้าน ขณะที่เดินทางผ่านมาถึงสวนใช้ออกกำลังกายสาธารณะ จุดบริเวณสนามกีฬาฟุตซอล ซึ่งอยู่ด้านหน้าของวัดเอี่ยมประชามิตร(แหลมฟ้าผ่า) ได้เห็นผู้ตายและผู้บาดเจ็บยืนหลบฝนอยู่ที่บริเวณอัฒจันทร์ของสนามฟุตซอลมี ลักษณะที่ผิดปกติโดยมือนักเรียนทั้งสองคนยังจับเสาเหล็กของอัฒจันทร์ไว้จึง ได้พยายามใช้มือจับตัวเด็กนักเรียนทั้งสองคนปรากฏว่าถูกไฟดูดจึงได้สะบัดมือ ออกแล้วร้องเรียนประชาชนใกล้เคียงนำไม้หรือวัสดุมาเขี่ยนำร่างของเด็กนักเรียนทั้งสองคนที่หมดสติ แล้วประสานครูที่โรงเรียนเร่งนำร่างนักเรียนทั้งสอง รายส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์อย่างเร่งด่วน

“เบื้องต้นจากการตรวจสอบของทางครูที่โรงเรียนแล้วพบว่าที่บริเวณจุดที่พบ เห็นเด็กนักเรียนทั้งสองคนซึ่งเป็นอัฒจันทร์ใช้ชมการแข่งขันฟุตซอลนั้น พบว่า มีสายไฟฟ้าที่เชื่อมต่อมาจากเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมถนนหน้าวัด เอี่ยมประชามิตร(แหลมฟ้าผ่า)พาดลงมาคาดว่าจะมีการลักลอบใช้ต่อไปใช้จากเสา ไฟฟ้าของทางราชการ และเกิดสภาพไฟฟ้ารั่วจนทำให้เด็กนักเรียนทั้งสองรายที่เข้าไปหลบฝนนั้น ถูกกระแสไฟฟ้าดูดจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด เรื่องนี้ทางเจ้า หน้าที่ตำรวจคงต้องเร่งไปตรวจสอบและสอบสวนว่าใครเป็นผู้แอบลักลอบต่อสาย ไฟฟ้ามาใช้และประมาททำให้เด็กนักเรียนของโรงเรียนนั้นบาดเจ็บและเสีย ชีวิต”นายชลธิต  กล่าว