เมื่อ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าเพจเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ปรากฏภาพพร้อมข้อความดังนี้
โถนึกว่าปลอดภัย
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พอกลับมาจากภารกิจปลูกป่า ที่ป่าหมู่บ้านซองกาเรีย จ.กาญจนบุรี อ.สังขละ ลงจากรถแวะหาแม่ แล้วเดินดูงาน สรงน้ำสรงท่า กว่าจะเรียบร้อยเวลาล่วงเลยไปทุ่มเศษๆ พระมาแจ้งว่า การ์ดและทหารจับมือปืนที่มายิงใส่วัด ในขณะที่พระกำลังทำความสะอาดอยู่มีคนมายิงปืนใส่กำแพงวัด พร้อมกับตะโกนด่า โชคยังดีที่ไม่โดนพระที่กำลังทำความสะอาด ต่อมาการ์ดและทหารจับตัวได้ทั้งสองคนพร้อมอาวุธ ดังที่ปรากฏในภาพ
ฉันนึกว่า ค.ส.ช.เปลี่ยนการปกครองบ้านเมือง ปฏิรูปบ้านเมือง สร้างความปรองดองแล้ว ฉันจะอยู่อย่างปลอดภัย วัดอ้อน้อยจะไม่โดนอันธพาลทำร้าย แต่จนแล้วจนรอด วัดอ้อน้อยก็โดนอีกจนได้ เมื่อไหร่จะหยุดเสียที เมื่อไหร่พระเณรในวัดนี้จะไม่โดนกลั่นแกล้งรังแกเสียที หยุดได้แล้ว พอได้แล้ว เลิกอาฆาตพยาบาท ทำร้ายทำลายกันได้แล้ว ยิ้มสยามของสังคมไทยจะได้กลับมาเสียที พี่น้องไทยทุกหมู่เหล่าต้องมาคิดกันว่า จะทำประโยชน์อันใดให้แก่สังคม ประเทศชาติบ้านเมือง เลิกเสียที พอเสียที กับความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ใจคับแคบ ให้รู้จักรับฟังคนอื่น เข้าใจคนอื่นบ้าง อย่าเอาแต่อารมณ์ใจตัวเอง แล้วบ้านเมืองจะอยู่กันอย่างไร ขอให้เห็นประโยชน์ส่วนรวม ก่อนประโยชน์ส่วนตนได้ไหม
ฉันยังมีความคิดดีๆที่จะช่วยสังคม ชาติบ้านเมืองอยู่อีกมาก ขออย่าเพิ่งทำให้ฉันตายก่อนเวลาอันควรเลย ขอให้ได้ใช้พลังชีวิตทั้งหมดที่มี ทุ่มเทอุทิศให้กับการแก้ไขปัญหาให้แก่สังคมประเทศชาติ นี่คือวิถีชีวิตแห่งผู้ปรารถนาพุทธภูมิที่ฉันปรารถนา ที่พูดนี่ไม่ใช่เพราะกลัวตาย กลัวเจ็บ คนอย่างพุทธะอิสระหากยังหวาดกลัว สะดุ้งผวาต่อความตาย ก็คงไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
การที่ฉันออกไปเป็นแกนนำ ต่อสู้เพื่อบ้านเพื่อเมือง เพื่อประชาชนคนในชาติ ให้ได้รับความสงบสุข ขับไล่รัฐบาลทรราช เปิดโปงคนชั่วคนโกง เปิดโปงพิษภัยของระบอบทักษิณ เพื่อให้คนไทยหูตาสว่าง ทวงความเป็นธรรมให้พี่น้องชาวนาเกษตรไทย ฉันขอถามหน่อยว่าฉันได้ประโยชน์อะไร 4 เดือนแห่งการที่ต้องทนทุกข์อยู่บนถนน เสี่ยงอันตราย โดนลอบยิงลอบทำร้าย โดนพยายามฆ่าด้วย M79 ถึง 8 ครั้ง 14 ลูก จนทำให้มีผู้ถูกลูกหลงบาดเจ็บไปหลายคน โดนทั้งแก๊สน้ำตา ทั้งโดนน้ำที่มีสารเคมีฉีดใส่หน้าอกจนปัจจุบันยังเจ็บหน้าอกไม่หาย แถมยังโดนข้อหากบฏ ต้องหาเงินมาสู้คดี 4 เดือนที่สู้มา มีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ต้องยืมเงินลูกศิษย์คนใกล้ชิด แม้กระทั่งแม่ที่แก่ชราอายุปาเข้าไปจะ 90 ปี ยังต้องเสียสละเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตที่เก็บเอาไว้จัดงานศพ มาให้พระลูกชายเป็นทุนสู้กู้ชาติ ฉันต้องโดนสังคมดูถูกเหยียดหยามประนามถ่มถุย วัดต้องถูกถล่ม ข่มขู่ด้วยปืนด้วยระเบิด ถูกลาดด้วยขี้ จุดไฟเผากุฏิ แม้ที่สุดปัจจุบันยังโดนคนถ่อยมายืนด่า ยิงปืนใส่ ฉันถามว่านี่หรือคือสิ่งที่ฉันควรจะต้องได้รับจากสังคมนี้ หรือฉันชั่วช้าจนสังคมนี้ไม่อาจรับได้ ฉันคดโกงปล้นสะดม ทำร้ายทำลายประโยชน์ของชาติตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันจึงต้องได้รับโทษานุโทษอย่างที่เป็นมา ที่เขียนมานี้มิใช่ต้องการทวงบุญคุณอะไร แต่ต้องการบอกกล่าวให้สังคมได้รับรู้ว่า ฉันมีความจริงใจที่จะให้ โดยมิได้หวังสิ่งใดตอบแทน ขอให้ได้ทดแทนคุณแผ่นดินนี้ฉันก็สุขใจแล้ว และถ้าจะให้ขอ ฉันแค่ขอว่าหยุดเสียที พอได้แล้ว ฉันเหนื่อยกับการที่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ ขอให้ฉันได้ใช้เวลาที่มีเหลืออยู่น้อยนิดนี้ ทำอะไรดีๆเพื่อสังคม ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ดีกว่าไหม อย่าให้ต้องมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระอยู่เลย
ส่วนคนที่มายิงปืนใส่วัด หลังจากที่สอบปากคำแล้วทำให้รู้ว่าเป็นคนข้างวัดนี่เอง เลยขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาปล่อยตัวกลับบ้านไปทำความดีชดเชย สำหรับปืนก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดพร้อมลูกกระสุน แล้วให้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพราะฉันยังเชื่อมั่นในคุณแห่งความเมตตาและให้อภัย ว่าจะทำให้โลกร่มเย็น สัตว์โลกอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
พุทธะอิสระ
24 มิถุนายน 2557