หนุ่มใหญ่เสียชีวิตปริศนาคาคุกเมืองพะเยา(ชมคลิป)

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 13 มิ.ย. ที่ห้องขัง สภ.เมืองพะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ต้องขังเสียชีวิตในห้องขัง

รีบไปตรวจสอบพบศพนายเฉลิมพงษ์ หาญป้อ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีขี่รถขณะมึนเมาสุราเฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหาย เสียชีวิตในสภาพนอนหงายอยู่บริเวณมุมด้านขวาของห้องขัง สภาพสวมเสื้อกล้ามสีเนื้อ กางเกงสามส่วนสีเทา ตรวจตามร่างกายไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังเจ้าหน้าที่ติดต่อแจ้งให้ญาติทราบ มีนางบานเย็น หาญป้อ อายุ 37 ปี น้องสาวผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ พร้อมแพทย์ตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ จึงต้องส่งศพชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน พ.ต.อ.สว่างวิทย์ สุทธหลวง ผกก.สภ.เมืองพะเยา

เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.45 น.วันที่ 12 มิ.ย.พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจยย.ชนท้ายรถเก๋งที่จอดอยู่ริมถนนสายศูนย์ขยายพันธ์พืชหมู่ 3 ต.ท่าวังทอง ที่เกิดเหตุรถจักรยายนต์ยามาฮ่าเมท สีแดง ทะเบียน พะเยา ท-4639 ล้มอยู่กลางถนน โดยมีนายเฉลิมพงษ์ ผู้ตายยืนอยู่ในที่เกิดเหตุในลักษณะมึนเมา แต่ไม่มีบาดแผลใดๆ พร้อมกันนี้มีนายประพันธ์ วงค์สีดา จนท.ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 31 เจ้าของรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีเทาทะเบียน สห-2833 กท.คู่กรณียืนดูความเสียหายรถตัวเองอยู่ด้วย

เนื่องจากผู้ตายมีอาการมึนเมาพนักงานสอบสวนจึงนำตัวมาที่สภ.เมืองพะเยา พร้อมเป่าวัดแอลกอฮอล์ปรากฏว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ถึง 308 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
 
จึงแจ้งข้อหาขับขี่รถขณะมันเมาสุรา ให้เจ้าหน้าที่นำตัวเข้าควบคุมในห้องขัง โดยมีผู้ต้องขังคดีอื่นที่เป็นชาวไทยจำนวน 4 คน และชาวพม่ารอส่งกลับอีก 2 คน รวมในห้องขัง 6 คน กระทั่งเวลา 05.00 น.ผู้ต้องขังทั้งหมดยังเห็นผู้ตายเดินเข้าห้องน้ำตามปกติ หลังกลับมานอนสักพักก็แน่นิ่งไปจนมีคนสังเกตว่าเสียชีวิตจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ทั้งนี้ญาติผู้ตายสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตและร้องขอให้มีการชันสูตรศพอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ญาติผู้ตาย พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อความเป็นธรรม และโปร่งใสของเจ้าหน้าที่ทั้งพนักงานสอบสวน ชุดสายตรวจที่ไปนำตัวผู้เสียชีวิตมาที่โรงพัก ก่อนตรวจวัดแอลกอฮอล์ และนำเข้าห้องขังรวมถึงสืบเวรว่ามีการดูแลผู้ต้องขังอย่างไรบ้าง รวมถึงสอบปากคำผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องเดียวกันทุกคนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงสามารถตอบโจทย์กับสังคมได้.