วงจรปิดมัด เฒ่าเร่ขายไอศกรีมลัก ด.ญ.6 ขวบ–ด.ช.11ปี ผู้ปกครองผวา หวั่นถูกฆ่าควักอวัยวะ
พบนางบุญยืน (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี มารดาของ ด.ญ.บี (นามสมมติ) วัย 6 ขวบ และ น.ส.นิภาวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี อาของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นางบุญยืน ให้การว่า ช่วงใกล้ค่ำวันที่ 10 มิ.ย. ขณะตนนั่งล้างถ้วยชามในงานศพเพื่อนบ้าน มีชาวบ้านแจ้งว่าลูกตนคือ ด.ญ.บี ถูกคนร้ายซึ่งเป็นชายเร่ขายไอศกรีมหน้างานศพ ล่อลวงลักพาตัวหายไปกับ ด.ช.ลูกของเพื่อนบ้าน โดยบุตรสาวขอเงินตนไป 10 บาท เพื่อไปซื้อไอศกรีม กระทั่งหายตัวไปหลังเพื่อนบ้านแจ้งให้ทราบ จึงรีบไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพหน้าคนร้ายได้ตรงข้ามบ้านงานศพ จึงนำไปให้ จนท.ตำรวจ ตรวจสอบเพื่อติดตามหาคนร้ายอย่างเร่งด่วน เกรงว่าอาจจะถูกล่อลวงไปทำอนาจาร และถูกล่อหลอกไปฆ่า ควักอวัยวะซึ่งเป็นเหตุที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเร็วๆ นี้
พร้อมกำลังชุดสืบสวนพยัคฆ์ได้ติดตามไล่ล่าตามจับคนร้ายได้ที่ป่าละเมาะห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ทราบชื่อคือนายสาคร ศรีนาแก อายุ 52 ปี ชาว ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ขณะขับรถพ่วงข้างสีฟ้าขายไอศกรีมยี่ห้อดัง โดยมี ด.ญ.บี และ ด.ช.เอ ซ้อนท้ายในรถไปด้วย
เพื่อดูลาดเลาก่อนหน้านี้ ทราบด้วยว่านายสาครคนร้าย เพิ่งมาขายไอศกรีมในหมู่บ้านได้แค่ 3 วัน จึงถามคนร้ายว่ามาลักเอาลูกของตนไปทำไม คนร้ายตอบกลับมาว่าเอาไปเล่นเฉยๆ จึงขอให้ จนท.ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะชาวบ้านต่างขวัญเสียและผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อาจถูกคนร้ายล่อลวงไปทำอนาจาร ลวงไปฆ่า หรือถูกทารุณกรรมต่างๆนาๆ ตามที่เป็นข่าว ช่วยกำกับดูแลบุตรหลานเพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก เหตุการณ์ครั้งนี้ยังดีที่ผู้ปกครองไหวตัวทัน และได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จึงช่วยรอดพ้นจากแก๊งลักเด็กนำตัวส่งผู้ปกครองได้ในที่สุด
หลังเด็กเลิกเรียนไปแล้วให้ดูแลย่างใกล้ชิด ให้เด็กทำการบ้าน กรณีผู้ปกครองมีธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องออกจากบ้าน ให้ฝากเด็กไว้กับญาติสนิท เพื่อป้องกันไม่ลูกหลาน หายตัวไปเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้