หนุ่มผู้อาศัยทะเลาะเพื่อนชาย คลั่ง!เผาบ้านเจ้าของวอดกลางดึก

7 มิ.ย.57 เมื่อเวลา 01.20 น. ร.ต.ท.วงศกร หลงกุล พงส.สภ.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิรัตนร่วมจิตอาสา สมาคมกู้ภัยบ่อพลอย ว่า เกิดเหตุไฟไหม้ บ้านเลขที่ 79/5 หมู่ 16 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี หลังจากรับแจ้งเหตุ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อจากนั้น พ.ต.อ.ไพวรรณ สาเพิ่มทรัพย์ ผกก.สภ.หนองรี พร้อม ร.ต.ท.วงศกร รีบรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านเลขที่ 79/5 โดยมีรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหลุมรัง 2 คัน ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิง แต่ในที่เกิดเหตุสภาพอากาศมีลมกรรโชกแรงมาก ทำให้เพลิงลุกลามให้บ้านหลังดังกล่าวที่เป็นบ้านเก่าทำจากไม้ 2 ชั้นถูกเพลิงเผาไหม้หมด  เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้

จากการสอบสวนเบื้องต้น นางเบญจมาศ สุดใจ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้เล่าว่า

ตนเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว แต่พักอาศัยอยู่อีกบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้กัน แต่บ้านหลังดังกล่าวให้ นายนเรศ อินอำนวย อายุ 24 ปี บุตรชายอยู่อาศัยกับเพื่อนชา คือนายสมบูรณ์ เหมือนใจ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2 ต.หนองย่างช้าง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชาย แต่ในช่วงเย็นก่อเกิดเหตุได้ยินเสียงบุตรชายทะเลาะกับนายสมบูรณ์ และทราบว่านายสมบูรณ์ได้ใช้มีดเหลี่ยมฟันนายนเรศ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นายนเรศ จึงหลบไปจากบ้านหลังดังกล่าว ทิ้งให้นายสมบูรณ์ อยู่เพียงลำพัง

จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ ตนเห็นว่า บ้านยังไม่เปิดไฟแต่มีเสียงเพื่อนบ้านร้องตะโกนว่าไฟไหม้ จึงออกมาดูและแจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือ

เพลิงลุกไหม้นานประมาณ 10 นาที รถดับเพลิงจึงมาถึงและช่วยฉีดน้ำแต่เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนไหม้หมดทั้ง หลัง หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาโดยในที่เกิดเหตุนายสมบูรณ์ยังมีอาการคลุ้มคลั่งยืน ถือมีดเหลี่ยมแกว่งไปมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าล้อมจับแต่มีการต่อสู้กับจนนายสมบูรณ์ ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้และนำตัวส่ง รพ.หนองรี เพื่อรักษาพยาบาลต่อไป ส่วนนายนเรศบุตรชายนั้น ยังไม่ทราบว่าหลบไปที่ไหน

ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ นักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนางเบญจมาศและให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้อีกครั้ง แต่เบื้องต้นน่าเชื่อว่า นายสมบูรณ์ น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ต้องรอการสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนจึงจะมีการแจ้งขอกล่าวหาต่อไป