ทลายรัง! ซีดีหนังลามก ยึดล้านแผ่น

"บุกค้นจับ ซีดีเถื่อน มูลค่ามหาศาล"



เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 เม.ย. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.)

นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น

แหล่งผลิตซีดีละเมิดลิขสิทธิ์และซีดีลามกในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังได้รับร้องเรียนจากเจ้าของ ลิขสิทธิ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศว่ามีการลักลอบผลิตซีดีเถื่อน โดยแยกตรวจค้นตามจุดเป้าหมาย 3 แห่ง

จุดแรกบ้านเลขที่ 26/46 หมู่บ้านธนากร 1

ต.บางกรวย อ.บางกรวย จุดที่ 2 ตึกแถวเลขที่ 74/16 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย และจุดสุดท้ายตึกแถวไม่มีเลขที่ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย สามารถตรวจยึดของกลางซีดีภาพยนตร์เรื่องต่างๆ

อาทิเรื่องแฝด เมล์นรกหมวยยกล้อ

นินจาเต่า บอดี้การ์ด 2 เป็นต้น จำนวนกว่า 500,000 แผ่น ปกซีดีกว่า 400,000 แผ่น เครื่องไรต์แผ่นซีดีจำนวน 14 ชุด และแผ่นซีดีลามกอีก 2 กล่อง นอกจากนี้ สามารถควบคุมตัวคนงานได้ 11 คน

ต่อมานายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม

รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมตัวแทนบริษัทผลิตภาพยนตร์จากค่ายต่างๆ ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ จากนั้นนายไพบูลย์เปิดเผยว่า



สถานที่ที่ถูกจับครั้งนี้เป็นแหล่งผลิตบรรจุและสต็อกสินค้า

ได้ของกลางทั้งแผ่นและปกรวมเกือบ 1 ล้านชุด เครื่องผลิต 14 ชุด เครื่องหนึ่งผลิตได้ครั้งละ 50 แผ่น วันหนึ่งผลิตได้ หลายหมื่นแผ่น ประเมินมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดได้ในเบื้องต้นประมาณ 30 ล้านบาท

รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การพัฒนาสังคมฯ

กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้เร่งรัดกวดขันเรื่องดังกล่าว โดยตั้งคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีการตั้ง คณะอนุกรรมการด้านต่างๆ มีกำลังตำรวจเป็นหลัก

ขณะเดียวกันก็มีอนุกรรมการสร้างสื่อดี

ขยายสื่อดี สร้างภูมิคุ้มกัน พัฒนากฎหมายและมีศูนย์เฝ้าระวัง คือต้องทำควบคู่กันไป อยากขอร้องผู้ประกอบการทั้งหลายว่ามีธุรกิจดีให้ทำมากมายที่สร้างสรรค์เป็นคุณประโยชน์

ส่วนผู้ประกอบการรายใดที่ทำอยู่ก็ควรละเว้น

เพราะจะเกิดผลเสียกับคนอื่นและสังคม และยังเกิดผลเสียต่อตนเองด้วย เช่นคนที่ถูกจับต้องเดือดร้อนและต้องโทษถูกดำเนินคดี

ด้านนายบรรจง ปิสัญธนะกูร

และนายภาคภูมิ วงศ์ภูมิ 2 ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแฝด ที่เดินทางไปตรวจดูหนังซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยตัวเอง กล่าวว่า หนังเรื่องแฝดได้เข้าฉายมาได้ 1 เดือน มีรายได้ 65 ล้านบาท คาดว่าหากไม่ถูกก๊อบปี้ เชื่อว่าหนังเรื่องแฝดจะทำรายได้ถึง 100 ล้านบาท จึงอยากขอร้องผู้ประกอบการที่ลักลอบทำว่าขอให้เห็นใจคนทำหนังบ้าง



ขณะที่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร

ผบก.ปศท. เปิดเผยว่า ช่วงที่นำกำลังเข้าจับกุมเจ้าของไม่อยู่ แหล่งที่ทำเป็นบ้านเช่า ตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นของใคร จากการสืบสวนพบว่าเป็นบ้านของเฮียโก ชื่อและนามสกุลจริง

รวมทั้งประวัติตำรวจมีหมดแล้ว

จะได้ดำเนินการออกหมายจับต่อไป ส่วนรายชื่อผู้ผลิตและผู้ค้ารายใหญ่ในประเทศไทยเท่าที่ตรวจสอบมีอยู่ประมาณ 18-20 ราย เดี๋ยวนี้ผู้ที่ดำเนินการฉลาดออกไปผลิตกันนอกประเทศแถวเขมร พม่า และลาว มีเครื่องปั๊มใหญ่ๆที่ซื้อมาจากประเทศจีนราคา 60-70 ล้านบาท เป็นเครื่องมือสอง มีอยู่ประมาณ 7-8 เครื่อง

ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม

รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การพัฒนาสังคมฯ เป็นประธานประชุมหารือการดูแลพื้นที่เสี่ยงที่เด็กเข้าถึงสื่อไม่เหมาะสมในเขต กทม. มี พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รอง ผู้ว่าฯกทม.

และตัวแทนผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า

ที่มีผู้ลักลอบขายสื่อลามก เช่น ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ห้างสรรพสินค้าเซียร์ รังสิต ตะวันนา เข้าร่วมประชุม โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการเข้าไปตรวจสอบที่ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า

และจับผู้เร่ขายสื่อลามก

และเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับแหล่งผลิตซีดีลามกไม่เหมาะสมและละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 1 ล้านแผ่น ใน อ.บางกรวย พบของกลางจำนวนมาก ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการดังกล่าว



และเชื่อว่ายังมีแหล่งผลิตอีกมาก

หลักใหญ่คือเรื่องสื่ออันตรายต่อสังคมหลายฝ่ายต้องร่วมกันขจัดสื่อร้าย กทม. ควรเป็นเจ้าภาพหลักดูแลพื้นที่เสี่ยงร่วมกับตำรวจ จากการหารือเจ้าของห้างจะจ้างชุดเฉพาะกิจมาตรวจสอบในพื้นที่ของตนเอง และยืนยันจะยกเลิกสัญญาทันทีหากตรวจพบ ทั้งนี้จะเริ่มต้นที่ กทม.และขยายไปทุกจังหวัด

พล.ต.อ.วงกตกล่าวว่า

ขณะนี้คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่มีนายไพบูลย์เป็นประธานได้ เตรียมออกคำสั่งเรื่องมาตรการปราบปรามสื่อผิดกฎหมาย ในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ ข้อกฎหมาย และสืบสวนปราบปราม

เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติโดยเร่งระดมกวาดล้างเป็นคราวๆ

โดยจะออกคำสั่งภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้จะใช้มาตรการทางธุรกิจในการกดดัน ตัดโอกาสผู้ผลิตและจำหน่ายสื่อลามกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเพิ่มบทลงโทษแต่ต้องเข้มงวดเจ้าหน้าที่ในการจับกุม

ขณะนี้มีตำรวจทุกกองบัญชาการ

มาร่วมเป็นอนุกรรมการขจัดสื่อร้ายทั้ง 7 ประเภท อาทิ สิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต โทรทัศน์ วิทยุ ช่วงหน้าร้อนนี้สื่อลามกค่อนข้างเยอะ กระทั่งนิตยสารหัวดังๆ ก็มีภาพนางแบบถ่ายชุดว่ายน้ำ มีภาพส่อไปในทางลามกอนาจาร เสื่อมเสียต่อศีลธรรมอย่างมาก

ด้านนายพุทธิพงษ์กล่าวว่า กทม.

มี ผอ.เขต ทั้ง 50 เขต และเจ้าหน้าที่จำนวนมากในการร่วมกับตำรวจเอกซเรย์พื้นที่เสี่ยงในแต่ละเขต เนื่องจากมีความเสี่ยงแตกต่างกัน ถ้าเป็นพื้นที่ชั้นนอก เช่น หนองจอก มีนบุรี

จะเสี่ยงน้อยกว่าพื้นที่ชั้นใน

ซึ่งมีสถานศึกษาจำนวนมาก อีกทั้งจะเน้นตรวจจับบริเวณมหาวิทยาลัย โรงเรียน และผู้ค้าซีดีโป๊บนบาทวิถี เนื่องจากการเข้มงวดตามห้างทำให้สื่อลามกแพร่กระจายมาสู่ผู้ค้าเหล่านี้แทน



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์