เจ้าของร้านข้าวต้มร้องกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตร. บุกค้นบ้าน-ยัดโพยหวย

เจ้าของร้านข้าวต้มร้องกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตร. บุกค้นบ้าน-ยัดโพยหวย-ขู่รีดเงิน กล้องจับภาพชัด

 เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายวัชรพงษ์ วรนิติเยาวภา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/99 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยภรรยา เข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.สุพรรณ โสภี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หลังจากที่นายวัชรพงษ์และภรรยาถูกชายฉกรรจ์จำนวน 3 คนอ้างเป็นตำรวจพื้นที่ เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านพัก ที่เปิดเป็นร้านข้าวต้มชื่อ โชคอนันค์ โดยกล่าวหาว่าตนและภรรยา เปิดรับเป็นเจ้ามือแทงหวยใต้ดิน และได้ทำการข่มขู่เรียกเงินจำนวน 50,000 บาท อีกทั้งกลุ่มที่อ้างเป็นตำรวจพื้นที่ ยังโทรศัพท์มาให้ถอนแจ้งความ เมื่อรู้ว่าตนและภรรยาเดินทางมาแจ้งความ พร้อมทั้งได้พูดจาข่มขู่ตนละภรรยา เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

 ผู้เสียหายได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ได้อ้างว่าเป็นตำรวจในพื้นที่แล้วสืบทราบว่าตนและภรรยารับแทงพนันหวย
 
จึงขอมาทำการตรวจค้น แต่ทั้งหมดก็ไม่มีหมายค้นมาให้ดูแต่อย่างใด ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะตนและภรรยาไม่ได้ทำหวย ได้แต่ทำการค้าขายกันอย่างเดียว จึงได้ให้เข้าทำการตรวจค้น ต่อมาชายที่อ้างว่าเป็น ดาบยอด บอกให้ตนเปิดตู้เซฟเพื่อจะตรวจในตู้ ตนก็เปิดให้หลังจากที่ชายที่อ้างว่าเป็นดาบยอด ตรวจค้นก็ถือโพยหวยออกมาให้ตนดู โดยบอกว่าไหนบอกไม่มี

 ตนและภรรยาถึงกับมึนว่ามีได้อย่างไร ก่อนที่ดาบยอดจะแจ้งว่าต้องถูกดำเนินคดี แต่ถ้าไม่อยากโดนจับให้นำเงินมา 50,000 บาท
 
ตนจึงบอกว่าไม่มี มีแค่ 2,000 บาทในตัว และทั้งหมดก็ได้เดินตรวจสอบที่ร้าน และถามว่าที่ร้านมีคนงานต่างด้าวหรือไม่ และใครดูแลอยู่ จ่ายให้ตำรวจเท่าไหร่ ตนก็บอกว่าไม่มี และไม่ได้จ่ายเช่นกัน ดาบยอด ก็เลยพูดว่าที่มาก็เพื่อต้องการมาเก็บส่วยด้วย และให้จ่ายค่าดูแล แต่ถ้าหากตนจะรับเป็นเจ้ามือหวยก็ทำได้ แต่ให้จ่ายค่าดูแลด้วย ตนและภรรยาก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้ทำ ค้าขายอย่างเดียว ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับพร้อมทั้งไถค่าน้ำมันจำนวน 2,000 บาท จากนั้นตนจึงได้แกล้งขอเบอร์โทรศัพท์ของดาบยอดไว้

 ภายหลังจากเกิดเรื่อง ตนจึงได้โทรศัพท์ไปปรึกษาตำรวจที่รู้จักกันที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมทั้งให้เบอร์ของดาบยอดไป
 
เพราะเห็นว่าถ้าเป็นตำรวจคงพูดคุยกันได้ จากนั้นทางตำรวจที่ สภ.พัทยา จึงแนะนำให้ตนแจ้งความ เพราะทั้งหมดไม่ใช้ตำรวจในพื้นที่ของ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งภายหลังทางดาบยอดรู้ว่าตนมาแจ้งความ ได้โทรมาให้ตนถอนแจ้งความ พร้อมทั้งข่มขู่ว่าอยากรู้ว่าตำรวจหน้าไหนจะคุ้มกะลาหัวได้ ตนและภรรยาจึงเกิดความกลัวว่ากลุ่มทั้งหมดจะมาทำร้ายและกลั่นแกล้งเพราะตนทำมาค้าขาย จึงได้ตัดสินใจมาร้องทุกข์เพื่อเป็นหลักฐานดังกล่าว

 ภายหลังจากการสอบสวนแล้วจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงปิดที่ผู้เสียหายได้บันทึกไว้ พบพฤติกรรมของคนร้ายที่เข้าไปทำการตรวจค้นโดย 1 ในกลุ่มแขวนบัตรตราโล่ตำรวจ และสามารถจับภาพใบหน้าชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจ ชื่อ ดาบยอดได้อย่างชัดเจน

 อย่างไรก็ตามจะได้ออกหมายเรียกตัวมาทำการสอบสวน หากพบว่าไม่ใช้เจ้าหน้าที่หรือทำการแอบอ้าง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นตำรวจจริงก็ตาม เนื่องจากกระทำการเสื่อมเสียภาพพจน์