ตำรวจ สน.บางกอกน้อย ตามรวบตัว 'โอ๋ บางแวก' ที่ยกพวกรุมกระทืบหนุ่มขับรถกระบะจนสลบคาเท้ากลางถนน จนกลายเป็นคลิปโด่งดังในสังคมออนไลน์ ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์รุมทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ นำตัวไปดำเนินคดี
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่ สน.บางกอกน้อย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7
พร้อมด้วย พ.ต.อ.เมธี รักพันธ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางกอกน้อย พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รอง ผกก.สส. และพ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสุชาติ ช้างเดช หรือ "โอ๋ บางแวก" อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.372/2557 ลงวันที่ 23 พ.ค. 57 ในข้อหา ”ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย,ร่วมกันเกินกว่า 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ทั้งนี้สืบเนื่องจากในสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอ ซึ่งเป็นภาพของกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังโกรธแค้น คนขับรถกระบะรายหนึ่ง จนถึงขั้นกรูกันเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ โดยมีการฉุดกระชากคนขับให้ลงจากรถแล้วรุมกระทืบซ้ำกลางถนนอย่างโหดร้ายและอุกอาจ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ตามที่ "เดลินิวส์" เคยเสนอข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากรณีที่ พระสุรพจน์ ปาวโณ อายุ 54 ปี ซึ่งจำวัดอยู่ที่วัดนกแขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ
ได้เข้าแจ้งกับพนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง ว่า ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ นายโสภณ ไทยจีน ลูกศิษย์ของ พระประสิท บุญมาเลิศ พระลูกวัดนกเช่นเดียวกัน กระทั่งได้นัดแนะให้มาไกล่เกลี่ยพูดคุยที่ สน.บางเสาธง แต่ นายสุชาติผู้ต้องหา พร้อมพวกกว่า 20 คน ซึ่งไม่พอใจกับการกระทำของ นายโสภณ ได้มาดักรอรุมทำร้าย จนต้องขับรถกะบะหลบหนีออกจาก สน.บางเสาธง เมื่อถึงหน้าร้านวัชรโภชนา ถนนจรัญสนิทวงศ์ ในเขตพื้นที่ สน.บางกอกน้อย นายสุชาติพร้อมพวกได้ขี่รถตามมารุมทำร้ายผู้ที่อยู่ในรถกระบะอย่างอุกอาจและโหดร้าย จนมีผู้สามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ และแชร์ออกไปในสังคมออนไลน์ ทางพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย จึงเร่งหาพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 4 คน คือ นายสุชาติ ที่นำตัวมาแถลงข่าวในวันนี้ และ นายชัยชนะ หรือแป๋ว วงศ์คำจันทร์ อายุ 30 ปี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำส่งฟ้องศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายมนตรี หรือเหนียว นันทกาญจน์ อายุ 28ปี และ นายเต๋า อายุ 18 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการตามล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ นายสุชาติ ให้การอ้างว่า ในวันดังกล่าวตนไม่ได้ตามไปรุมทำร้ายเหยื่อแต่อย่างใด แต่ยืนอยู่ที่ สน.บางเสาธง
ซึ่งคนที่อยู่ในคลิปที่ถูกเผยแพร่ไปมีทั้งที่ตนรู้จักและไม่รู้จัก ผู้ที่สามารถยืนยันได้คือ นายสุภัทร์ ช้างเดช หรือ อ้อม บางแวก พี่ชาย และที่ตนเดินทางมามอบตัวในวันนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าตนไม่ได้รุมทำร้าย นายโสภณ แต่ตนเดินทางไปที่ สน.บางเสาธงจริง เพื่อพา พระสุรพจน์ ไปแจ้งความ ซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ขณะที่ นายโสภณ ขับรถมายังโรงพัก แต่กลับถูกลูกศิษย์พระสุรพจน์คนอื่นๆตะโกนสั่งให้ลงจากรถ ก่อนที่นายโสภณจะรีบขับรถหลบหนีออกไป ดังนั้นตนจึงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีการทำร้ายร่างกายตามคลิปดังกล่าว ส่วน นายธมนันท์ ผาสุม อายุ 29 ปี สาวประเภทสอง เพื่อนหญิงคนสนิทของ นายโสภณ ให้การว่า ตนนั่งตรงเบาะหลังของคนขับในวันเกิดเหตุ
ซึ่งเมื่อ นายโสภณ ขับรถไปถึง สน.บางเสาธง ก็มีลูกศิษย์พระสุรพจน์กรูเข้ามาทุบรถและทำท่าคล้ายมีอาวุธ
พวกตนเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงรีบขับรถหนี โดยยอมรับว่าระหว่างทางได้เฉี่ยวชนเข้ากับรถ จยย.ที่จอดอยู่ข้างทาง 4 คัน ซึ่งตนไม่ได้เจตนาจะหนี แต่ต้องเอาตัวรอด กระทั่งติดไฟแดงลูกศิษย์พระสุรพจน์ ตามมาทันจึงรุมทำร้าย นายโสภณ และเพื่อนนั่งอยู่กระบะหลังอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ นายสุชาติ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.