กทม.แจงเหตุวงจรปิดจับภาพชายขนน้ำแข็งถูกรุมทำร้ายไม่ได้ ชี้ไม่ใช่ดัมมี่แต่กล้องยังไม่ต่อไฟ
จากกรณีที่นายธนกฤต ปิ่นวิเศษ ชายขับรถส่งน้ำแข็ง ได้ขับรถชนกรวยยางที่กลุ่มการ์ดกปปส. ตั้งไว้บริเวณริมถนนฝั่งตรงข้ามสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5 และต่อมาก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ทราบฝ่ายเข้ามารุมทำร้าย โดยในเวลาต่อมา ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี รวมทั้งขอดูภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุขึ้น และพบว่าไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าเป็นกล้องดัมมี่
จากกรณีดังกล่าว เป็นเหตุให้ "กล้องดัมมี่" หรือกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) หลอก
ได้กลายมาเป็นประเด็นในสังคมออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากในวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกประจำตัวของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพิ่งจะออกมาแถลงข่าวยืนยันว่า "ขณะนี้ไม่มีกล้องซีซีทีวีของกทม. ที่เป็นกล้องดัมมี่แม้แต่ตัวเดียว หากใครพบให้มารับรางวัลได้1แสนบาท"
ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ได้สอบถามไปทางสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (สจส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลกล้องซีซีทีวีในความรับผิดชอบของกทม. โดยทางสจส. ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า
"ทางกทม. ได้เก็บกล้องดัมมี่ จำนวน 1,325 กล้อง ออกหมดแล้วตั่งแต่ประมาณปลายปี 2554 จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุมีกล้องของกทม. ติดตั้งอยู่ 2 จุด คือ
1.จุดกลับรถใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สนามเป้า ฝั่งตรงข้ามสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งกล้องในจุดนี้สามารถใช้งานได้และบันทึกภาพได้ตามปกติ
2. บริเวณปากซอยพหลโยธิน 3 ซึ่งเป็นกล้องที่ติดตั้งใหม่ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าที่บริเวณเสาไฟยังมีสายไฟม้วนขดอยู่เลย จึงยังไม่ได้บรรจุกระแสไฟฟ้า เพราะสัญญาเกี่ยวกับทางผู้รับเหมานั้นยังไม่เรียบร้อยดี แต่ไม่ใช่กล้องดัมมี่ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ซึ่งในขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าขั้นตอนการดำเนินงานนั้นมีความคืบหน้าอย่างไรแล้ว"
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า"ตอนนี้มีชาวบ้านจำนวนมาก มาแจ้งเบาะแสกับทางสจส.
ว่าพบกล้องดัมมี่ เพื่อรับเงินรางวัล 1 แสนบาท แต่ในกรณีนี้ต้องทำความเข้าใจว่า กล้องดังกล่าวนั้นไม่ใช่กล้องดัมมี่ เป็นกล้องจริง เพียงแต่ยังไม่ได้เชื่อมกระแสไฟ ซึ่งก็ต้องทำการประสานงานกับทางการไฟฟ้านครหลวงในลำดับต่อไป โดยในขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่"