แก๊งโฉด! หลอกเหยื่อเข้าโรงแรม มอมยารูดทรัพย์-ร่วมหลับนอน

แก๊งโฉด! หลอกเหยื่อเข้าโรงแรม มอมยารูดทรัพย์-ร่วมหลับนอน เน้น "สาววัยรุ่น-หนุ่มเกย์"

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 พ.ค. พ.ต.อ.วิเศษ ภักดีวุฒิ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ(พงส.ผทค.) สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.ชาติชาย ทิมินกุล สว.สส.และตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาแก๊งมอมยารูดทรัพย์ได้ตัวผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายอินทนนท์ หรือน้อย ไชยชนะ อายุ 22 ปี ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลาง 4 รายการ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น , แหวนทองคำหนัก 2 สลึง 1 วง , สร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น และเงินสด จำนวน 15,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 125,000 บาท ไว้ดำเนินคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน (มอมยารูดทรัพย์)

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เอ นามสมมติ อายุ 22 ปี ชาว จ.ขอนแก่น

ได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ว่า เมื่อเวลา 02.00 น.คืนวันเดียวกันตนได้ไปเที่ยวที่ร้านอาหารมีชื่อในตัวเมืองขอนแก่นจนพบกับนายอินทนนท์ ได้เข้ามาตีสนิทแล้วชักชวนตนไปเปิดห้องพักในโรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ตั้งอยู่ ถ.มิตรภาพ ได้นำเครื่องดื่มเสริมสุขภาพให้ตนดื่มก่อนมีเพศสัมพันธ์กัน หลังจากนั้นก็มีอาการง่วงนอนจนเผลอหลับไปเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

กระทั่งตนตื่นขึ้นมาอีกทีตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดที่ตนสวมใส่ติดตัวทั้งสร้อย แหวนและกำไล พร้อมเงินสดจำนวน 28,000 บาท

 และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงกาแลคซี่ รุ่นแกรนด์สีขาว จำนวน 1 เครื่อง รวมทั้งบัตรเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยจำนวน 1 ใบ ของตนได้หายไปหมดเกลี้ยง จึงรีบไปอายัดบัตรแต่ไม่ทันเพราะทางธนาคารตรวจสอบพบว่าเงินในบัญชีของตนจำนวน 110,000 บาท ได้ถูกคนร้ายกดโอนเข้าบัญชีอื่นไปหมดแล้ว ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ตนนอนหลับอยู่ในโรงแรม ตนจึงรีบมาแจ้งความให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายคือ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งตำรวจสืบทราบ ติดตามจับกุมตัวนายอินทนนท์ ได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ

จากการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่าตนก่อคดีมาอย่างโชกโชนนับสิบครั้งแล้ว

 โดยได้ร่วมกับนายไชยยันต์ โชติกะ เพื่อนที่หลบหนีไปได้ ออกหาเหยื่อตามสถานบันเทิงยามค่ำคืน ใช้วิธีตีสนิทแล้วหลอกให้เหยื่อชอบพอ  เน้นหาเหยื่อที่มีฐานะร่ำรวย ทั้งหญิงสาววัยรุ่นและชายหนุ่มที่เป็นเกย์ชอบไม้ป่าเดียวกัน สังเกตว่าเป็นพวกตู้ทองเคลื่อนที่ โดยสวมใส่สร้อยแหวนทองคำติดตัวหลายชิ้น หากได้บัตรเอทีเอ็มจะหลอกสอบถามเหยื่อเพื่อให้ล่วงรู้รหัส

ผู้ต้องหา กล่าวกับเจ้าหน้าที่โดยยอมรับว่า "ผมใช้เวลาตีสนิทเข้าหาเหยื่อจนสนิทสนมเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ บางครั้งนานร่วม 1 เดือน

ก่อนลงมือพาไปเปิดห้องพักในโรงแรมเพื่อหลับนอนด้วยกัน แล้วผสมยาอัลปราโซแรม Alprazolam หรือยาเสียสาวให้เหยื่อดื่มกิน จนเสร็จกิจเหยื่อก็จะมีอาการอ่อนเพลียจนหลับสนิท อาศัยจังหวะนี้กวาดเอาทรัพย์สินมีค่าของเหยื่อหลบหนีไป โดยแต่ละรายได้ทรัพย์สินร่วม 1 แสนบาทขึ้นไป"

ส่วนทรัพย์สินที่ได้เอาไปขายมาแบ่งกับนายไชยยันต์ เพื่อนร่วมแก๊งไว้ใช้จ่าย และเที่ยวเตร่ตามประสาวัยรุ่น จนเงินจวนหมดก็จะชักชวนกันออกหาเหยื่อรายใหม่ สุดท้ายไม่รอดพ้นเงื้อมมือตำรวจมาตามจับตัวตนถึงบ้านเกิดที่ จ.ศรีสะเกษ ไว้ดำเนินคดีดังกล่าว ส่วนนายไชยยันต์ เพื่อนร่วมแก๊งตนหลบนหนีไปได้