ธุรกิจค้าปืนมะกันเฟื่องฟูหลังเกิดเหตุกราดยิง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลพวงจากเหตุสะเทือนขวัญครั้งประวัติศาสตร์กราดยิง 32 ศพ ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เทค รัฐเวอร์จิเนีย

ทำให้ชาวอเมริกันหลั่งไหลไปเที่ยวชมสินค้า

ในงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาวุธ จัดขึ้นกว่า 20 งานทั่วสหรัฐฯอย่างคึกคัก โดยที่งานแสดงอาวุธปืนในรัฐอริโซนา และรัฐจอร์เจีย บรรดาผู้ค้าต่างนำอาวุธชนิดต่างๆมาจัดแสดง มีตั้งแต่ปืนพกสมรรถนะสูง

ไปจนถึงปืนยาวพิฆาต ไมค์ เดตตี

ผู้ค้าปืนรายหนึ่ง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เทค ธุรกิจค้าปืนโตขึ้นเท่าตัว และทุกครั้งที่เกิดเหตุทำนองนี้ ราคาปืนจะพุ่งขึ้น เพราะคนต้องการซื้อปืนมากขึ้น

รายงานระบุอุตสาหกรรมอาวุธปืน

ของสหรัฐฯมีมูลค่าปีละกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ยอดขายปืนแต่ละปีตก 4.5 ล้านกระบอก และจำนวนปืนที่อยู่ในครอบครองโดยส่วนตัวมีจำนวนเกิน 215 ล้านกระบอก อย่างไรก็ตาม

ผู้ค้าปืนอ้างว่าคนส่วนใหญ่ที่ซื้อปืน

ไม่ได้มีไว้เพื่อทำร้ายใคร ครึ่งหนึ่งของคนที่มีปืนไม่ยิงปืน แต่มีไว้เพื่อสะสม เนื่องจาก ความชื่นชอบ ด้านฮานี ดูร์ซี โฆษกเว็บไซต์อีเบย์ ระบุนายโช ซง ฮุย นักศึกษาที่กราดยิงระห่ำที่เวอร์จิเนีย

ได้เข้าไปหาซื้อกระสุนปืนสำหรับปืนสั้น

กระบอกหนึ่งที่เขาใช้ก่อเหตุในเว็บไซต์นี้ การซื้อขายเกิดขึ้นเมื่อ 22 มี.ค.หรือ 3 สัปดาห์ก่อนเขาลงมือ เจ้าหน้าที่ กำลังขอหมายค้นเพื่อตรวจสอบอีเมล์แอดเดรสของโช

เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของอาวุธมรณะ

ขณะเดียวกัน มีรายงานโชยังอาศัยเว็บอีเบย์เพื่อขายหนังสือเกี่ยวกับความรุนแรง ความตาย การประทุษร้ายคนอื่นที่เขามีอีกด้วย.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ