มูลนิธิดังหัวหินตั้งค่าหัวล่าแก๊งโจรใจบาป วางยาช้างตัดงา-ตัดแผงหาง

 

 เมื่อ วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ต.สุริยา แป้นเกิด พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

 รับแจ้งเหตุมีคนร้ายลักตัดงาช้างและขนหางช้าง ภายในมูลนิธิช้างหัสดินทร์ เลขที่ 176 หมู่ 7 ถ.สายหัวหิน-หนองพลับ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.เนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ทราบ จากนั้นพร้อมด้วย พ.ต.อ.วรัญญู กุลดิลก ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.พัชรพงษ์ รบอาจ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เพ็ชรศรี สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนสืบสวนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

 พบ นายปิยะวุฒิ เพชรชุมพล อายุ 35 ปี ผจก.มูลนิธิ ยืนรอให้ปากคำก่อนพาไปดูช้าง 2 เชือกที่โดนทำร้าย

ถูกล่ามโซ่อยู่ชายป่าห่างจากสำนักงานมูลนิธิราว 200 เมตร ตัวแรกเป็นช้างเพศผู้ ชื่อ �พลายบุญมี� อายุ 65 ปี ยืนสะลึมสะลืออยู่ งาทั้ง 2 ข้างถูกคนร้ายใช้เลื่อยตัดงาออกข้างละ 40 ซ.ม.เหลือแต่โคน ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบช้างเพศเมีย ชื่อ �พลอยทอง� อายุ 24 ปี ถูกคนร้ายใช้กรรไกรตัดแผงขนหางจนกุด ตรวจโดยรอบพบรอยเท้าคนร้ายอยู่เต็มพื้นที่และรอยรถยนต์ จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวนนาย สิทธิชัย ศาลางาม อายุ 54 ปี ควาญช้างที่ดูแลพลายบุญมี ให้การว่าช่วงเย็นที่ผ่านมาควาญได้นำช้างทั้งหมด 6 เชือก

มาผูกแยกไว้ตามชายป่าแล้วเข้านอนในที่บ้านพักซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก จนรุ่งเช้ามาดูก็พบว่าช้างทั้ง 2 เชือก ถูกคนร้ายตัดงาและขนหางไปแล้ว คาดว่าคนร้ายน่าจะอาศัยช่วงดึกปลอดคนลักลอบเข้ามา ปกติสุนัขที่เคยเลี้ยงไว้จะเห่าหากพบเห็นคนแปลกหน้า แต่คืนที่เกิดเหตุกลับเงียบ รวมถึงไม่ได้ยินเสียงช้างร้องด้วย

 ด้าน นายปิยะวุฒิกล่าวว่า ที่มูลนิธิช้างหัสดินทร์ เคยถูกคนร้ายลอบเข้ามาตัดงาช้างและขนหางถึง 2 ครั้งแล้ว

 คราวแรกเมื่อปี 2554 ช้างชื่อ �พลายแสงจันทร์� วัย 24 ปี ต้องเสียชีวิต เพราะแผลเกิดติดเชื้อบริเวณงาที่ถูกตัด ครั้งนี้ พลายบุญมี ที่ถูกคนร้ายตัดงาไปนั้น ทางมูลนิธิได้เลี้ยงดูไว้หลายปีมีลักษณะงาที่สวยงาม คาดว่าคงเป็นที่ต้องการของคนสะสมงาช้าง ส่วน �พลอยทอง� มีแผงหางที่สวยงามเป็นรูปพัด ขนแต่ละเส้นใหญ่ยาวประมาณ 1 ฟุต มูลค่างาและขนหางที่ถูกตัดคิดเป็นเงินราว 5 แสนบาท หลังเกิดเหตุตั้งแต่คราวแรกทางมูลนิธิได้ติดตั้งไฟส่องสว่างและติดตู้แดงไว้ เพื่อป้องกัน แต่คนร้ายก็ยังลอบเข้ามาอีกจนได้ อย่างไรก็ดีทางมูลนิธิได้ตั้งรางวัลนำจับเป็นเงิน 5 หมื่นบาท ให้ผู้ที่ทราบหรือพบเห็น สามารถแจ้งเบาะแสกับมูลนิธิ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้

 ด้าน พ.ต.ท.พัชรพงษ์ รบอาจ รอง ผกก.(สส.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่องรอยเบื้องต้น คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน

ที่คาดว่าคงมาดูลาดเลาไว้ก่อนแล้ว ขับรถปิกอัพเข้ามาจอดที่ริมถนนแล้วเดินเลาะชายป่าตรงเข้าหาช้าง ซึ่งผู้ลงมือน่าจะเคยเป็นควาญช้างมาก่อน จากนั้นใช้ยากล่อมประสาทยัดใส่กล้วยโยนให้ช้างกิน จนมีอาการเชื่องสะลึมสะลือ ใช้โซ่เหล็กที่เตรียมมาล่ามเท้าไว้ อีก 2 คนช่วยกันจับงาช้างแล้วใช้เลื่อยไฟฟ้าแบบพกพาตัดงาออกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งคนร้ายต้องมีความชำนาญเรื่องช้างเป็นอย่างดีและรู้ดีว่าหากตัดลึกกว่า นี้ถึงโพรงกระดูก เลือดจะออกมากช้างจะส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนงาและขนช้างคาดว่าคงรับใบสั่งมาจากนายทุนเพื่อไปทำเครื่องประดับราคาแพง หรือของขลังตามความเชื่อ ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำและทำประวัติควาญช้างแต่ละคนไว้เพื่อสืบหาตัวคน ร้ายอย่างเร่งด่วนแล้ว