ร่ำไห้รับศพกระเป๋ารถเมล์ขโมยมินิบัสซิ่งชนยับ ก่อนถูกรุมประชาทัณฑ์จนตาย แพทย์ระบุถูกแทงทะลุปอด พ่อ-แม่-เพื่อน ไม่เชื่อผู้ตายเป็นคนขับ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ น.ส.วาสนา เอี่ยมสวัสดิ์ อายุ 36 ปี กับนายอุทิศ มั่นสุข อายุ 42 ปีแม่กับพ่อเลี้ยงของนายสิริศักดิ์ เเสงศรี อายุ 18 ปี กระเป๋ารถเมล์ที่ก่อเหตุขโมยรถโดยสารประจำทางมินิบัสสาย 1 ไปจากอู่รถเมล์ ก่อนก่อเหตุชนรถคันอื่นบนท้องถนนเสียหายหลายคันจนตัวเองถูกรุมประชาทัณฑ์เสียชีวิต พร้อมด้วยญาติและเพื่อนผู้ตายกว่า 10 คน เดินทางมารับศพนายสิริศักดิ์ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดอินทร์บรรจง ย่านพระราม 3 เป็นเวลา 3 วัน ก่อนฌาปนกิจ โดยแพทย์ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากบาดแผลฉีกขาดทะลุปอดเสียโลหิตปริมาณมาก โดยมีบาดแผลถูกแทงเข้าที่สีข้างขวา 1แผล และแผ่นหลังด้านซ้ายอีก 2 แผล
น.ส.วาสนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนทำอาชีพเป็นกระเป๋ารถมินิบัสประจำทางสาย 1 ส่วนนายอุทิศสามีนั้นเป็นคนขับรถมินิบัสสายเดียวกัน
โดยพวกตนจะออกไปทำงานคู่กันตลอด ส่วนลูกชายนั้นหลังจากเรียนจบ ป.6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ จนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาลูกชายก็เริ่มมาเป็นกระเป๋ารถเมล์สาย 1 แต่ไม่ได้ทำประจำ แล้วแต่เจ้าของรถจะเรียกใช้วันที่คนขาด โดยวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนเพิ่งให้ลูกชายขึ้นไปเป็นกระเป๋าคู่นายอุทิศเป็นวันแรก หลังเลิกงานก็กลับบ้านมากินข้าวด้วยกัน จากนั้นก็เข้านอนตอนประมาณเที่ยงคืนโดยไม่ทราบว่าลูกชายออกจากบ้านไปตอนไหน แล้วเอารถคันดังกล่าวไปได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นลูกหัดขับรถ แต่นายอุทิศสามีตนบอกว่ามีคนแถวอู่เห็นลูกชายขึ้นรถไปกับเพื่อนอีก 2 คน แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร จนกระทั่งช่วงเช้า รพ.ตำรวจ โทรมาบอกว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว
ขณะที่นายร็อค (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เพื่อนรุ่นน้องผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อคืนเวลา 01.54 น. ที่ผ่านมา ผู้ตายโทรศัพท์มาชวนให้ออกไปนั่งรถเล่นเป็นเพื่อน
แต่ไม่ได้บอกว่านั่งรถอะไรบอกแค่ว่าให้ออกมาหาที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ เท่านั้น แต่ตนก็ปฏิเสธไปเพราะว่าง่วงนอนหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าผู้ตายถูกแทงเสียชีวิตตอนเช้า ซึ่งกลุ่มเพื่อนๆ เชื่อว่า ผู้ตายไม่น่าจะเป็นคนขับรถเองน่าจะเป็นอีกสองคนที่ไปด้วยมากกว่า เพราะที่ผ่านมาเคยเห็นผู้ตายหัดขับรถ แต่ยังไม่เป็นแค่สตาร์ทเครื่องถอยหลังก็ดับแล้ว.