ผวจ.ภูเก็ตสั่งเชือดผู้ประกอบการและวิศวกรบันจี้จัมพ์พร้อมล้อมคอกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเครื่องเล่นหวาดเสียวทั่วเกาะ
เมื่อเวลา14.30 น. วันที่ 20 เม.ย. นายไมตรี อินทุสุต ผวจ.ภูเก็ต พร้อมนายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ตว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต นายศุภวัฒกัณฐ์ คุณลักษณ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลฉลอง เขต 2 นายสิชล เหมือนเลื่อน วิศวกรโยธา รักษาราชการผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลฉลอง ตัวแทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ให้บริการบันจี้จัมพ์ ภายในซอยศาลเจ้ากวนอู หมู่ 2 ต.ฉลอง หลังเกิดเหตุลวดสลิงยึดติดกับกระเช้า ขาดหล่นกระแทกพื้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายพิทักษ์ชัย วงศ์ศรีชาอายุ 28 ปี และนายทศพร สุกศรี อายุ 27 ปี นายช่างประจำเครื่องเล่น บันจี้จัมพ์ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายอนุพงษ์ กันทาวงศ์ อายุ 37 ปี พนักงานประจำกระเช้า
โดยนายมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูล 4 ประเด็นคือ การขออนุมัติอนุญาต
จากหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งทางฝ่ายกองช่างเทศบาลตำบลฉลองแจ้งว่า ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร 3 อาคาร ได้แก่ อาคารบริการอาคารสำนักงาน และอาคารบันจี้จัมพ์ ซึ่งมีความสูง 12 เมตร แต่จากการตรวจสอบพบว่า ไม่เป็นตามที่ขออนุญาตและอนุมัติโดยมีการก่อสร้างอาคารบริการกับอาคารสำนัก งานรวม เป็นอาคารเดียวกัน ขณะที่อาคารบันจี้จัมพ์ก็มีการก่อสร้างสูงกว่าที่กำหนด โดยก่อสร้างสูงถึง 52 เมตร ซึ่งสาเหตุที่บริเวณดังกล่าวก่อสร้างได้เพียง12 เมตร เนื่องจากเป็นเขตพื้นที่สีเขียวตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะต้องมีการขออนุญาตใช้อาคาร หรือ ใบ อ.6จากทางเทศบาลฯอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการ และก่อนเทศกาลสงกรานต์ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลฯได้เข้ามาตรวจสอบและแจ้ง ด้วยวาจาการก่อสร้างนั้นไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะความสูงในส่วน ของอุปกรณ์ที่จะใช้กระโดดบันจี้จัมพ์ซึ่งสูงกว่าที่ได้รับอนุญาต
ประเด็นถัดมา สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ในครั้งนี้ส่วนแรกทางด้านวิศวกรรม กับส่วนตัวบุคคล ซึ่งเป็นความประมาทและสะเพร่า
โดยนายกเทศมนตรีตำบลฉลองให้เหตุผลว่าน่าจะมา จากส่วนที่ 2 คือ ตัวบุคคลเพราะในห้องควบคุมอุปกรณ์ไม่มีไฟฟ้าแสงสว่าง และมีการทดสอบในช่วงกลางคืนผู้ที่ทำการทดลองอาจจะไม่มีประสบการณ์มากนัก และความไม่เป็นมืออาชีพเท่าที่ควรเพราะการบริการที่มีความเสี่ยงนั้นผู้ให้ บริการจะต้องเป็นมืออาชีพและมีมาตรฐาน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิต นอกจากนี้สภาพพื้นที่ให้บริการก็ยังไม่พร้อมที่จะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นทางเข้า หรือพื้นที่ที่ให้บริการ ประเด็นที่ 3 เรื่องการดำเนินคดี ซึ่งเป็นเรื่องของตำรวจที่ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนทางกองช่างเทศบาลฯ ก็ต้องมีการส่งข้อมูลประกอบในการดำเนินคดเกี่ยวกับการทำผิดพ.ร.บ.อาคาร และประการสุดท้าย การป้องกัน เนื่องจากในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีการเปิดให้บริการบันจี้จัมพ์ 2-3 แห่ง ซึ่งสั่งการให้โยธาธิการและผังเมืองฯ ตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนว่า มีมากน้อยเพียงใด รวมทั้งจะต้อง ตรวจสอบมาตรฐานในการให้บริการ เนื่องจากการเปิดให้บริการเครื่องเล่นลักษณะนี้ เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนจึงต้องมีการรีเชค เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
นายไมตรียังกล่าวต่อไปว่า อยากจะฝากผ่านสื่อมวลชนไปยังผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่จะทำกิจกรรมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
และการสร้างอาคารที่เกี่ยวกับความเสี่ยงหลายอย่างและทางจังหวัดเป็นห่วง ซึ่งได้กำชับไปแล้วในการประชุมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและจะมี หนังสือย้ำเตือนเพิ่มเติม ทั้งในเรื่องของการก่อสร้างอาคารที่จะต้องให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางหนีไฟ เสียงหรือความเสี่ยงที่สร้างบนเนินเขาและพื้นที่ชุ่ม หรือแลนด์สไลด์ เกี่ยวกับพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม การขุดเจาะบ่อบาดาล หรือการถมขุมน้ำ โดยขอให้ผู้ประกอบากรทุกรายตระหนักเรื่องของความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับ ประชาคมชุมชนและบ้านเรือนของราษฎร เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิดขึ้นกรณีการมาขออนุญาตเกี่ยวกับ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงนั้นนายไมตรี กล่าวว่า จะได้ทำหนังสือเน้นย้ำไปยังท้องถิ่นต่างๆ ในการอนุญาตและมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดการทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้ง นี้ก็น่าจะเป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี .