แห่ศพลูกประท้วงอ้างถูกซ้อมตับแตกในเรือนจำ

หญิงชรา ชาว อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ แห่โลงศพลูกชายประท้วงขอความเป็นธรรม หลังเสียชีวิตลงอย่างมีเงื่อนงำขณะถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำรัตนบุรี แพทย์ระบุถูกทำร้ายจนตับแตก แต่เรือนจำกลับปกปิด แจ้งญาติว่าผู้ตายเกิดอาการลงแดงยาเสพติด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 เม.ย. นางคำนวน แสงสว่าง อายุ 62 ปี ชาวบ้านโนนสะเดา ต.หนองเทพ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์
 
ได้เดินทางมาพร้อมญาติพี่น้องและชาวบ้านอีกกว่า 100 คน โดยนำโลงศพของ นายครรชิต แสงสว่าง อายุ 22 ปี บุตรชาย ขึ้นรถตู้ของหน่วยกู้ชีพสลักได มาที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อแห่โลงศพประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายครรชิต โดยให้ทาง นายนิรันทร์ กัลยาณมิตร ผวจ.สุรินทร์ ช่วยเร่งรัดติดตามคดีกรณีการเสียชีวิตที่แท้จริงของบุตรชาย

ด้าน นางดวงจันทร์ แสงทอง อายุ 41 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา
 
นายครรชิต ซึ่งถูกคุมขังที่เรือนจำรัตนบุรีในคดีเสพยาเสพติด ได้ถูกนำตัวออกจากเรือนจำไปรักษาตัวที่ รพ.รัตนบุรี ก่อนถูกส่งต่อไปยัง รพ.สุรินทร์ โดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันทางครอบครัวและญาติพี่น้องถึงเพิ่งได้รับแจ้งจากเรือนจำรัตนบุรี ว่า นายครรชิต ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สุรินทร์ โดยระบุว่าเกิดอาการลงแดง อยากยาเสพติดอย่างรุนแรง จึงพากันเดินทางไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แต่พอไปถึงพบว่าผู้ตายพูดไม่ได้แต่ยังรู้สึกตัว เมื่อถามว่าเจ็บปวดตรงไหน ผู้ตายได้ชี้ให้ดูว่าเจ็บที่บริเวณท้อง และซี่โครง รวมทั้งที่คางและแก้ม พวกตนจึงถามหมอที่รักษาก็บอกว่าเอ็กซเรย์สมองแล้วไม่เป็นอะไร ทั้งที่ผู้ตายไม่ได้ปวดหัว แต่ปวดท้องและที่บริเวณอื่น จึงขอย้ายนายครรชิตไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นก็ไม่ได้รับการอนุญาต

นางดวงจันทร์ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นวันที่ 15 เม.ย. นายครรชิตก็เสียชีวิตลง ญาติพี่น้องจึงติดใจต้องการให้แพทย์ผ่าพิสูจน์
 
สุดท้ายแพทย์จึงผ่าพิสูจน์และลงความเห็นเพื่อลงบันทึกในใบมรณะบัตรว่า ตับแตกเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย  ซึ่งตรงกันกับที่ผู้ตายเคยบอกกับพ่อและแม่ขณะนำอาหารเข้าเยี่ยมเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า ให้ช่วยประกันตัวออกไปที เพราะถูกซ้อมจนอ้วกเป็นเลือด แต่พ่อและแม่ของผู้ตายไม่ได้ถามว่าถูกใครซ้อม ประกอบกับเงินประกันตัวไม่มี เนื่องจากต้องใช้เงินประกันถึง 4.9 แสนบาท และหลังเกิดเหตุก็ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบจากเรือนจำ แม้แต่พวงหรีดสักอันก็ไม่มี มาทราบตอนหลังจากเรือนจำว่า ได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วว่า สาเหตุของการตายเกิดจากการทะเลาะวิวาทของผู้ตายกับผู้ต้องขังรายอื่น แต่ครอบครัวติดใจว่าทำไมต้องปกปิดตั้งแต่แรก และหากถูกผู้ต้องขังด้วยกันซ้อม ทำไมผู้คุมจึงไม่ช่วยและห้ามปราบ แค่พูดความจริงมาครอบครัวคงไม่ติดใจอะไร แต่ทนไม่ได้ที่เรือนจำนิ่งเฉยเกินไป จึงต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากเรือนจำรัตนบุรีในวันนี้ และต้องการให้หาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษ

จากนั้น นายวรชัย ศรีสุวรรณวัฒนา ป้องกันจังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นตัวแทน ผวจ.สุรินทร์ ลงมารับหนังสือแทน
 
พร้อมรับปากว่า หลังจากได้รับหนังสือแล้วจะนำเสนอถึง นายนิรันทร์ กัลยาณมิตร ผวจ.สุรินทร์ เพื่อให้รับทราบ พร้อมส่งเรื่องถึงศูนย์อำนวยความเป็นธรรม ซึ่งจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และต้องรู้ผลภายใน 15 วัน หลังจากนั้นครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต จึงพอใจ และได้นำโลงศพนายครรชิตกลับบ้านเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาตอไป และจะมีพิธีฌาปณกิจศพในวันที่ 20 เม.ย. นี้.