“มัลลิกา-จุฤทธิ์” บุก ทบ.ยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” จี้กองทัพเอาผิด “โกตี๋ - ตั้ง อาชีวะ-พวกหมิ่นสถาบัน” ด้านเลขานุการ ทบ. วอน ปชช.ช่วยจับตา
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล และนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)เพื่อขอให้ดำเนินการพิจารณากับขบวนการสร้างความเกลียดชังต่อสถาบัน โดยเฉพาะกรณีของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี และนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ พร้อมทั้งนำหลักฐานเป็นซีดีบันทึกข้อมูลเพื่อขอให้กองทัพใช้ดุลยพินิจพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ในการสั่งการกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าว โดยมีพล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก เป็นตัวแทนของผบ.ทบ.รับหนังสือแทน
ทั้งนี้นายจุฤทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ใครก็ตามที่บ่อนทำลายสถาบัน ที่สุด
แล้วจะเป็นศัตรูกับคนไทยทั้งประเทศองค์กรทหารเป็นองค์กรที่ประชาชนให้ความเคารพและให้ความเชื่อถือว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ พรรคประชาธิปัตย์จึงได้ยื่นหนังสือขอให้ ผบ.ทบ.ช่วยจัดการเรื่องดังกล่าวนี้ ปัญหาทางการเมืองส่วนหนึ่งในวันนี้เกิดขึ้นเพราะมีการไม่เคารพศรัทธา 3 สถาบันหลัก คือชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ทำให้ปัญหาการเมืองตรงนี้ไม่จบ หากช่วยกันแก้ไขปัญหาตรงนี้ก็เชื่อว่าปัญหาทางการเมืองก็จะจบได้
น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดว่าเรื่องการดูแลการละเมิดสถาบันเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบเท่านั้น
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ ในฐานะที่เคยเป็นที่ปรึกษา รมว.ไอซีที ทราบว่าก่อนหน้านี้เคยมีบันทึกลงนามข้อตกลงหรือเอ็มโอยู ระหว่าง 5 กระทรวงและกองทัพที่ช่วยกันขจัดข้อมูลที่คนกระทำความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯและกฎหมายที่เกี่ยวกับการหมิ่นสถาบัน แต่เอ็มโอยูดังกล่าวที่ผ่านมาไม่ได้มีการประชุมขึ้นอีก
โดยการแต่งตั้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไม่ใช่มีแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีทั้งทหารและพลเรือนที่สามารถตรวจค้นและจับกุมได้อย่างเท่าทันเวลา
จึงขอแนะนำฝ่ายความมั่นคงว่าขอให้รื้อเอ็มโอยูดังกล่าว และใช้อำนาจจากส่วนนั้น รวมถึงประชุมร่วมกับทีมเจ้าพนักงานคอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญเท่าทันต่อสถานการณ์ เนื่องจากการขับเคลื่อนวันนี้ไม่ใช่เฉพาะแค่กรณีของนายโกตี๋หรือนายตั้ง อาชีวะ เท่านั้น ทางกองทัพไม่ควรเพิกเฉยปล่อยปละละเลยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานคอมพิวเตอร์เท่านั้น เรื่องนี้เป็นขบวนการที่มีความจงใจทำลายสถาบัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับกองทัพและหน่วยงานความมั่นคง
ด้านพล.ต.พลภัทร กล่าวว่า ขอบคุณที่ให้ความเชื่อมั่นในการทำงานของกองทัพ ยืนยันว่าที่ผ่านมากองทัพพยายามทำหน้าที่และบทบาทของตนเองให้ดีที่สุด
สำหรับเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่มีการติดตามมาพอสมควรจากสิ่งที่ดำเนินการ ผบ.ทบ.ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆที่มีบทบาทหน้าที่นั้นทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และอยากให้ทุกคนให้เกียรติและเคารพการทำหน้าที่ของกันและกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีกำลังใจทำหน้าที่ในส่วนของตนเอง เรื่องของไอทีเป็นเรื่องที่จะต้องเข้าไปศึกษารายละเอียดอีกครั้งต้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแล เพราะการเผยแพร่ทางออนไลน์ขณะนี้เป็นไปอย่างกว้างขวางถ้ามีการตรวจพบก็เป็นเรื่องที่ดี เพียงแค่เจ้าหน้าที่อย่างเดียวอาจดูแลไม่ทั่วถึงและไม่ครอบคลุมเพียงพอ
ดังนั้นประชาชนและหน่วยงานต่างๆ จะต้องช่วยกันเพื่อชาติบ้านเมือง โดยทางกองทัพบกมีศูนย์ประชาสัมพันธ์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าติดตามหากมีข้อมูลสามารถส่งเข้ามาได้และจะรวบรวมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป.