ฆ่าโหดทุบหัวหญิงสาว-เด็ก ราดน้ำมันย่างสดคารถ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 เม.ย. พ.ต.ท.พล คอนเอม พงส.ผนพ. สภ.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง

ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าแล้วเผาทิ้งในรถยนต์ที่ถนนซอยสาย 9 หมู่ที่ 4 ต.นิคมพัฒนา-มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมนึก บุรมิ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.เชาว์ศิริ บุญศิริโยธิน ผกก.สภ.นิคมพัฒนา พ.ต.ท.ชโลธร เปรมปรี และกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ระยอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง

ในที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนน พบรถยนต์กระบะแคปยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีโก้สีเทา หมายเลขทะเบียน บพ 8280 จันทบุรี สภาพถูกเผาทั้งคัน

ภายในรถยนต์บริเวณแคปหลังพบศพสภาพถูกเผาไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกสร้อยข้อมือทองคำ1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องแหวนเงิน 1 วง เหรียญ 5 บาทจำนวนหลายเหรียญ ที่ตัดเล็บแบบตัดหนังสตรี 1 อัน แว่นตา 1 อัน ปลอกกระสุนปืนขนาด .22 (ทำตะกรุดเครื่องรางของขลัง)รวม 15 ปลอก พระเหรียญต่างๆหลายองค์ ถูกไฟไหม้เสียหายเหลือเพียงบางส่วน พบบุหรี่ยังไม่ได้จุดไฟตกอยู่ห่างจากรถเล็กน้อย 1 มวน เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานสภาพริมถนนที่เกิดเหตุพบต้นกระถินถูกไฟไหม้ พบร่องรอยคราบน้ำมันไหลเป็นทาง

พ.ต.อ.เชาว์ศิริบุญศิริโยธิน ผกก.สภ.นิคมพัฒนา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ศพที่พบอยู่ในแคปทั้ง 2 ศพสภาพถูกตีด้วยของแข็งจนหัวกะโหลกแตก ที่ลำคอมีร่องรอยผ้าผูกมัดคอและถูกเผาไหม้เกรียมจึงไม่สามารถจำหน้าศพทั้งสองได้ คาดว่าเป็นศพผู้หญิงและเด็ก

อย่างไรก็ต้องพิสูจน์ตรวจดีเอ็นเออีกครั้งจึงจะทราบแน่ชัดว่า เป็นเพศหญิงหรือชาย

โดยที่เกิดเหตุยังพบทรัพย์สินของผู้ตายตกอยู่หลายรายการ และถังแก๊สปิคนิคที่อยู่ในแคปซึ่งคาดว่าน่าจะถูกฆ่าแล้วนำมาเผา โดยใช้ถังแก๊สปิคนิคจุดไฟให้ระเบิด จากการตรวจสอบข้อมูลขนส่งทราบว่า รถดังกล่าวนี้เป็นของ นายนริศ โรจนมณเฑียร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/6 หมู่ที่ 3 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของเต็นฑ์รถอยู่จันทบุรี ผู้เช่าซื้อรถชื่อ นายผจญ อัปมาทะ อายุ 33 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ส่วนคนค้ำประกันชื่อ นางสาวสุนิษา อาจทวีคูณ อายุ 28 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ขณะนี้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจันทบุรีไปตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวใครนำมาใช้ พร้อมทั้งให้ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามไหล่ทางทั้งหมด ที่คาดว่ารถคันนี้ใช้เป็นเส้นทางขับมาจอดในที่เกิดเหตุ ซึ่งจะได้มีการตรวจหาว่าศพเป็นใครกันแน่ ก่อนวิเคราะห์หาสาเหตุประเด็นการสังหาร ครั้งนี้ต่อไปได้