จ้างคนรุมซ้อมสามีเจ้าชู้ หวังให้บาดเจ็บจะได้อยู่บ้าน - แต่ผิดคิวกระทืบถึงตาย

รวบสาวใหญ่จ้างคนรุมซ้อมสามีเจ้าชู้ หวังให้บาดเจ็บจะได้อยู่บ้าน - แต่ผิดคิวกระทืบถึงตาย

วันที่ 9  เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ บช.ภ.4 พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ, พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.บัญญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.4  เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สระใคร ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม สาวใหญ่หึงโหด จ้างลูกน้องพร้อมพวกฆ่าสามีเป็นเสี่ยไร่อ้อย โดยผู้ต้องหา 1.นางอ้อนฤทัย ผลทิพย์ อายุ 38 ปี 2.นายสุรชาติ อามาตย์มนตรี อายุ 32 ปี และ นายสราวุธ สุวรรณศรี อายุ 23 ปี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.สระใคร จ.หนองคาย

ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่าพบศพ นายบุญช่วย ผลทิพย์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 11 ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย มีอาชีพเป็นเจ้าของไร่อ้อย และมีฐานะดีคนหนึ่งในพื้นที่ อ.สระใคร และเป็นสามีจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายของนางอ้อนฤทัย ผลทิพย์ ผู้ต้องหาคนที่ 1 โดยพบศพนายบุญช่วยถูกทำร้ายร่างกายและนอนเสียชีวิตในบริเวณไร่อ้อยบ้านห้วยทราย หมู่ 11 ต.บ้านฝาง อ.สระใคร

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ตายได้ไปติดพันหญิงสาวภายในหมู่บ้านเดียวกัน และยกย่องออกหน้า

ทางชุดสืบสวนเกิดความสงสัยนางอ้อนฤทัยว่าอาจมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการตาย จึงได้เชิญมาสอบสวนปากคำและ นางอ้อนฤทัยยอมรับสารภาพว่า ไม่พอใจที่ผู้ตายที่เป็นสามีของตนเองไปมีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงสาวอื่นที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน มีบ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งเธอได้ขอร้องให้ผู้ตายเลิกกับหญิงสาวคนดังกล่าวแล้วหลายครั้ง แต่ผู้ตายไม่ยอมเลิกเธอจึงเกิดความโกรธแค้นและต้องการสั่งสอนผู้ตาย

นางอ้อนฤทัย สารภาพเพิ่มเติมว่า เธอได้ให้นายสุรชาติที่เป็นลูกน้องของเธอเองด้วยการว่าจ้าง 50,000 บาท
 
ให้มาทำร้ายผู้ตายตอนนั้นหวังแค่ให้ได้รับบาดเจ็บและต้องการให้รักษาตัวอยู่ในบ้านเท่านั้น นายสุรชาติจึงอาสารับงานนี้ด้วยการติดต่อญาติของตนเองกับเพื่อน คือ นายสราวุธ พร้อมด้วยนายนนท์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ นายณรงค์ฤทธิ์ ราชภักดี เพื่อก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้ตายให้สาหัสตามที่นางอ้อนฤทัยว่าจ้างมา

เมื่อถึงวันเกิดเหตุนายสราวุธกับพวกได้ไปดักซุ่มรอทำร้ายผู้ตายคือ นายบุญช่วย
 
กระทั่งผู้ตายขับขี่รถ จยย.มาที่บริเวณไร้อ้อยที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ นายสราวุธจึงได้ใช้ไม้ไผ่ขนาดยาว ตีผู้ตายจนตกจากรถ จยย. เมื่อผู้ตายล้มลง นายณรงค์ฤทธิ์ นายนนท์ จึงได้เข้าไปร่วมทำร้ายร่างกายจนนายบุญช่วยสลบแน่นิ่ง และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

นายสราวุธพร้อมกับพวกจึงได้มาหานายสุรชาติเพื่อมารับเงินค่าจ้างครั้งนี้ ซึ่งนายสุรชาติได้แบ่งเงินให้นายสราวุธ 8,000 บาท
 
นายณรงค์ฤทธิ์ 9,000 บาท นายนนท์ 8,000 บาท ส่วนอีก 20,000 บาท นายสุรชาติ รับไปเองโดยบอกว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ หลังจากนั้นได้พากันหลบหนีออกจากพื้นที่เกิดเหตุกลับไปที่ภูมิลำเนาของตนเองส่วนมากอยู่ที่ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกหมายจับทุกคนและสามารถจับกุมได้เกือบหมด ยกเว้น นายณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมฆ่าผู้ตายด้วยได้หลบหนีการจับกุมไปได้

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดไปมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.สระใคร จ.หนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต่อไป