รวบสาวแสบ-เปิดบริษัทตุ๋นเหยื่อ20ล. แฉคดีอื้อ เช็คเด้ง! ถึง60ใบ

รวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกตุ๋นซื้อสินค้า ก่อเหตุนับไม่ถ้วน จนโดนหมายจับคดีฉ้อโกงและพ.ร.บ.เช็คกว่า 60 คดี มูลค่าเสียหายกว่า 20 ล้าน
 
ตร.บุคคโลตรวจสอบหมายจับคดีค้างเก่า พบมีคดีลักทรัพย์เมื่อปี"47 ตามรวบตัวได้ที่บ้านพัก สืบประวัติพบคดีติดตัวอื้อ ประสานสืบสน.มีนบุรีพาผู้เสียหายรุดชี้ตัว ก่อนอายัดตัวดำเนินคดี ด้านสาวแสบอ้างถูกคนรู้จักหลอกเอาชื่อกับบัตรประชาชนไปเปิดบริษัทหลอกลวงคน อื่น

เหตุการณ์จับกุมตัวสาวนักตุ๋นรายนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 เม.ย. พ.ต.อ.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผกก.สน.บุคคโล

พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ รองผกก.สส. และร.ต.ท.ธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล รอง สว.สส.สน.มีนบุรี ร่วมแถลงจับกุมตัวนางวันเพ็ญ ศรีคงคา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/5 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 2894/47 ลงวันที่ 26 ส.ค. 2547 เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

พ.ต.ท.ปิโยรสเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าให้ ได้มากที่สุด

หลังผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธคดีลักทรัพย์ อ้างว่าไม่รู้เรื่อง จึงให้ประกันตัวออกไปสู้คดีในวงเงิน 150,000 บาท แต่ระหว่างชุดจับกุมตรวจสอบข้อมูลค้างเก่าพบว่านางวันเพ็ญมีหมายจับคดีร่วม กันฉ้อโกง คดีฉ้อโกงและพ.ร.บ.เช็ค ติดตัวอยู่อีกกว่า 60 คดี ส่วนใหญ่เกิดในท้องที่สน.มีนบุรี จึงประสานฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรีติดตามผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยัน ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่สน.มีนบุรี

ด้านร.ต.ท. ธีรวัตร์ที่เดินทางมารับตัวนาง วันเพ็ญตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ จ.476/2552 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และพ.ร.บ.เช็ค

ให้สัมภาษณ์ว่าจากการตรวจสอบประวัตินางวันเพ็ญพบว่าเคยเปิดบริษัทชื่อ บจก.ศรีคงคา เอ็นจิเนียริ่ง ประกอบกิจการค้าเคหภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร มีออฟฟิศอยู่ย่านถนนนิมิตใหม่ ท้องที่สน.มีนบุรี นอกจากนี้ ยังมีโกดังเก็บสินค้า ที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนางวันเพ็ญและพวก ฐานร่วมกันฉ้อโกงและความผิดตามพ.ร.บ.เช็ค จนศาลอนุมัติหมายจับมาแล้ว 60 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท เบื้องต้นติดตามผู้เสียหายมาชี้ตัวได้ 6-7 คน และจะนำตัวนางวันเพ็ญไปดำเนินคดีที่ สน.มีนบุรี ต่อไป

ด้าน นางวันเพ็ญให้การยอมรับว่า ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้เหยื่อทุกราย โดยอ้างว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน

ที่พลาดให้บัตรประชาชนและเซ็นชื่อให้กับคนที่เพิ่งรู้จักคนหนึ่งไป ต่อมาทราบว่าถูกนำชื่อไปจดทะเบียนบริษัทและมีการฉ้อโกงกันเกิดขึ้นจนถูก ตำรวจออกหมายจับ ทำให้ต้องหลบหนี ปัจจุบันมีอาการป่วย ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เมื่อเห็นว่าเรื่องราวเงียบไปจึงกลับมากบดานและรักษาตัวที่บ้าน ไม่คิดว่าจะถูกจับกุมตัว



ด้านน.ส.มนัสนันท์ ภานนท์สกุล อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า เปิดบริษัทขาย แผ่นอะคริลิกแปรรูปชื่อ บจก.เอที มีเดีย ในย่านสายไหม เมื่อประมาณกลางเดือนม.ค.2552 นางวันเพ็ญโทร.มาหาสั่งซื้อแผ่นอะคริลิก 2 ล็อต มูลค่า 420,000 บาท ให้ไปส่งที่โกดังของบจก. ศรีคงคา เอ็นจิเนียริ่ง ซอยนิมิตใหม่ 13 เมื่อไปส่งตามนัดก็ได้รับเช็คธนาคารกสิกรไทย สาขามีนบุรี มา 2 ใบ แต่เมื่อนำไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงติดตามถามทวงถาม ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวปิดไปแล้ว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายที่มาชี้ตัวนางวันเพ็ญบางรายอ้างว่าเคยถูกหลอกให้นำรถ โฟล์กลิฟต์ไปส่งที่โกดังดังกล่าว เสียหายไปรวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท และยังมีผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ ถังน้ำ รวมกลุ่มกันติดตามตัวนางวันเพ็ญอีกจำนวนมาก